สภาพธรรมแม้มีจริง...แต่ถ้าสติไม่ระลึกรู้ ก็ไม่ปรากฏ
โดย พุทธรักษา  1 ธ.ค. 2551
หัวข้อหมายเลข 10565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ท่านอาจารย์ ถ้าฟังธรรมะเข้าใจ ก็จะทราบว่าไม่มีอะไรเลยนอกจากจิต เจตสิก รูป แล้วรูปก็เกิดดับเร็วมาก รูปใดที่ไม่ปรากฏ รูปนั้นเกิดแล้วดับแล้วไม่เหลือ ก่อนสติจะระลึก สัญญาจำได้แม่นยำว่ามีเราเป็นอัตตสัญญา ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้าใครบ้างที่ไม่มีตา ปอด ซี่โครง เล็บ ผม ฯลฯ ไม่มีในความทรงจำใช่ไหมคะ แต่ความจริงแล้ว สภาพธรรม ที่เป็นรูปปรมัตถ์มีอายุเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะฉะนั้นรูปใดที่เกิดแล้วดับแล้ว ก็ไม่ปรากฏ ตัวทั้งตัวที่ใหญ่มาก สำคัญมาก เป็นเราตั้งแต่ศรีษะจรดเท้านี้นะคะจริงๆ แล้ว ก็คือชั่วขณะที่รูปใดรูปหนึ่งปรากฏ

เพียงรูปที่ปรากฏกับสติเท่านั้น ที่มีจริงๆ อย่างนี้ ปัญญาจึงจะเห็นความเป็นอนัตตาคือ ไม่มีแขน ไม่มีขา ไม่มีตัวตน เพิกอิริยาบถทั้งหมด เพราะเหตุว่า อิริยาบถก็ไม่มีเฉพาะรูปใดรูปหนึ่ง ที่สติระลึกรู้เท่านั้น จึงปรากฏ

ท่านผู้ฟัง ที่ว่าไม่มีตัวตนนี้ ไม่มีเฉพาะในขณะที่สติเกิดใช่ไหม

ท่านอาจารย์ ถึงอย่างไรก็ไม่มีตัวตน ถึงเดี๋ยวนี้ก็เป็นอย่างนั้นเจ้าค่ะ.ขอสมมติ...คือลองหลับตาลงขณะนี้ ที่ตัวนี้มีอะไรบ้าง

ท่านผู้ฟัง มีลักษณะแข็ง ปรากฏที่สะโพก

ท่านอาจารย์ เท่านั้นเอง แข็งอื่นไม่ปรากฏฉะนั้นความจริง ก็คือความจริงแต่ปัญญายังไม่ถึงระดับละความเป็นเราได้ทั้งๆ ที่สภาพธรรมขณะนี้ มีจริงอย่างนี้ก็ยังเป็นเราอยู่ทั้งตัวตั้งแต่ศรีษะจรดเท้าจนกว่าจะประจักษ์ว่าไม่มีอะไรเลยจริงๆ

ความจริงคือ ไม่มีอะไรปรากฏ
นอกจากนามธรรมและรูปธรรมที่สติกำลังระลึกรู้ และเห็นความเกิดดับด้วยจึงจะละความเป็นตัวตนได้ มิฉะนั้น ไม่มีทางละ อัตตสัญญาได้เลย
หลับตาลงไปก็ยังมีเรา (มีส่วนต่างๆ ของร่างกาย) ทั้งแท่งที่จำไว้แน่นหนา จนกว่าสติระลึกลักษณะของรูปใด แล้วเข้าใจถูกต้องในลักษณะของรูปนั้นๆ ที่กำลังปรากฏ ทีละอย่างๆ

จนกว่าจะถึงความสมบูรณ์ของปัญญา ไม่ใช่เพียงแต่เฉพาะศรีษะจรดเท้านะคะ แม้โลกที่จำไว้ทั้งหมดก็ไม่มีขณะนี้ เราอยูในโลกที่เต็มไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่างจากความทรงจำเท่านั้น ทางตาที่เห็น ทางหูที่ได้ยิน แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ถ้าหลับตาก็ไม่มีสิ่งที่ปรากฏทางตา เสียงก็ปรากฏเฉพาะเสียงปอด หัวใจ ก็ไม่มี เย็นร้อน อ่อนแข็ง ก็ไม่มี นั่นคือขณะที่เป็นความจริงการประจักษ์ความความจริง คือปัญญา ที่ถึงระดับที่ละอัตตสัญญาได้ แต่ต้องเป็นการประจักษ์แจ้ง ไม่ใช่หลับตานิดหนึ่ง แล้วคิดว่าจริง

สนทนาธรรมที่วัดฝายหิน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ พ.ศ. ๒๕๔๔

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่สรรพสัตว์



ความคิดเห็น 1    โดย สุภาพร  วันที่ 1 ธ.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย suwit02  วันที่ 1 ธ.ค. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 3    โดย คุณ  วันที่ 2 ธ.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 4    โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  วันที่ 3 ธ.ค. 2551
lสติระลึกได้ ก็จำไว้

ความคิดเห็น 5    โดย พุทธรักษา  วันที่ 3 ธ.ค. 2551

ขอเรียนถามคุณ จำแนกไว้ดีจ้ะ ค่ะที่ว่า สติระลึกได้ ก็จำไว้จำอะไรไว้คะ


ความคิดเห็น 6    โดย pornpaon  วันที่ 7 ธ.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ . . .


ความคิดเห็น 7    โดย สุภาพร  วันที่ 5 ม.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย pamali  วันที่ 6 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย chatchai.k  วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ