[เล่มที่ 29] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ - หน้า 70
๔. มาตุคามสูตร
ว่าด้วยมาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ย่อมเข้าถึงอบาย
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 29]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ - หน้า 70
๔. มาตุคามสูตร
ว่าด้วยมาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ย่อมเข้าถึงอบาย
[๔๖๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ โดยมากเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน. คือ มาตุคามในโลกนี้ เวลาเช้ามีใจอันมลทิน คือความตระหนี่กลุ้มรุมแล้วอยู่ครองเรือน เวลาเที่ยงมีใจอันความริษยากลุ้มรุมแล้วอยู่ครองเรือน เวลาเย็นมีใจอันกามราคะกลุ้มรุมแล้วอยู่ครองเรือน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล โดยมากเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึง อบาย ทุคติ วินิบาต นรก.
จบ มาตุคามสูตรที่ ๔
อรรถกถามาตุคามสูตรที่ ๔
พึงทราบวินิจฉัยในมาตุคามสูตรที่ ๔ ดังต่อไปนี้
บทว่า มจฺเฉรมลปริยุฏิเตน ความว่า ก็ในเวลาเช้า มาตุคามปรารภเพื่อจะทำการงานที่มีกังวลอยู่ในน้ำนม นมส้มและการหุงเป็นต้น. แม้บุตรน้อยทั้งหลายร้องขออยู่ ย่อมไม่ปรารถนาเพื่อจะให้อะไร. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสคำนั้นว่า เวลาเช้า มีใจอันมลทิน คือความตระหนี่กลุ้มรุมแล้ว. ส่วนเวลาเที่ยงมาตุคามย่อมถูกความโกรธ ครอบงำ. เมื่อไม่ได้ทะเลาะกันภายในเรือน ก็ย่อมทำการทะเลาะกันใน
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ - หน้า 71
เรือนของชนที่คุ้นเคยกัน และย่อมเที่ยวสอดส่องดูที่ยืนและที่นั่งของสามี. ด้วยเหตุนั้นพระองค์จึงตรัสว่า เวลาเที่ยง มีใจอันความริษยากลุ้มรุมแล้ว. ส่วนในเวลาเย็น จิตของหญิงนั้นย่อมน้อมไปเพื่อเสพอสัทธรรม. ด้วยเหตุนั้น พระองค์จึงตรัสว่า เวลาเย็นมีใจอันกามราคะกลุ้มรุมแล้ว.
จบ อรรถกถามาตุคามสูตรที่ ๔