เดี๋ยวนี้ ยังมีการแสดงตนเป็น พุทธมามกะ อีกหรือเปล่าครับ แล้วผู้ที่ประกาศตัวเป็นพุทธมามกะ ต้องปฏิบัติตนอย่างไรบ้าง หรือใช้เฉพาะต่างศาสนา ที่เปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนา
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พุทธมามกะ คือผู้ที่ประกาศตนว่า ขอมีพระพุทธเจ้า เป็นของเราคือ เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งในสมัยพุทธกาลนั้น การเป็นอุบาสก อุบาสิกา หรือเป็นพุทธศาสนานิกชน ไม่ใช่ด้วยประเพณี ไม่ใช่พิธีกรรม ไม่ใช่เพียงคำพูดว่า ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง พระธรรมและพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง แต่เพราะเกิดจากความเข้าใจ เกิดจากปัญญาที่ได้จากการฟังพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นการจะเป็นพุทธมามกะ การจะเป็นพุทธศาสนิกชน การจะเป็นอุบาสก อุบาสิกาก็ด้วยความเข้าใจถูก อันเกิดจากการศึกษาพระธรรม แม้จะไม่ได้กล่าวเป็นคำพูดเลย ไมได้เข้าพิธีกรรม แต่มีความเข้าใจพระธรรม จึงเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ขอถึงพระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง ด้วยการศึกษาพระธรรมด้วยการน้อมประพฤติปฏิบัติตามก็ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนานิกชน เป็นอุบาสก อุบาสิกาแล้ว
หากไม่มีความเข้าใจพระธรรม หรือเข้าใจพระธรรมผิด ก็ไม่สามารถมี พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งได้ เพราะการมีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง คือการศึกษาพระธรรมของพระองค์ให้เข้าใจถูกนั่นเอง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ชาวพุทธควรปฎิบัติคือการศึกษาพระธรรมให้เข้าใจถูกต้อง ความเข้าใจพระธรรมและน้อมประพฤติปฏิบัติตามนั่นเอง ย่อมเป็นสิ่งที่บ่งบอก ถึงความเป็นพุทธมามกะ พุทธศาสนิกชนได้เป็นอย่างดี มากกว่าคำพูดและพิธีกรรมครับ ดังสมัยพุทธกาล ที่ผู้ที่ได้ฟังพระธรรมจนเข้าใจจึง ได้ขอถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และประกาศตนเป็นอุบาสกเพราะเกิดปัญญา ความเข้าใจก่อนครับ ไม่ใช่ประกาศตน ทั้งที่ยังไม่เข้าใจ ไม่ศึกษาพระธรรมหรือเข้าใจธรรมผิดครับ
ขออนุโมทนา
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
กราบ ขออนุโมทนากับความกระจ่างครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ