[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 350
เถราปทาน
สุธาวรรคที่ ๑๐
พุทธุปัฏฐากเถราปทานที่ ๑๐ (๑๐๐)
ว่าด้วยผลแห่งการเป่าสังข์บูชาพระผู้มีพระภาคเจ้า
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 350
พุทธุปัฏฐากเถราปทานที่ ๑๐ (๑๐๐)
ว่าด้วยผลแห่งการเป่าสังข์บูชาพระผู้มีพระภาคเจ้า
[๑๐๒] เราเป็นผู้เป่าสังข์บูชาแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า วิปัสสี เป็นผู้ประกอบการบำรุงพระสุคตเจ้า ผู้แสวงหาคุณ ใหญ่เป็นนิตย์.
เราเห็นผลการบำรุงพระโลกนาถผู้คงที่ ดนตรี ๖ หมื่น ห้อมล้อมเราทุกเมื่อ.
ในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ เราบำรุงพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้แสวง หาคุณใหญ่ ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผล แห่งการบำรุง.
ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๖ ครั้ง ทรงพระนามว่ามหานิโฆสะ มีพละมาก.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระพุทธุปัฏฐากเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบพุทธุปัฏฐากเถราปทาน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 351
๑๐๐. อรรถกถาพุทธุปัฏฐากเถราปทาน
อปทานของท่านพระพุทธุปัฏฐากเถระ มีคำเริ่มต้นว่า วิปสฺสิสฺส ภควโต ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสมภารในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าวิปัสสี บังเกิดในตระกูลคนป่าสังข์ เจริญ วัยแล้วได้เป็นผู้ฉลาดในศิลปะ คือในการเป่าสังข์ของตน. ท่านเป่าสังข์ ถวายพระผู้มีพระภาคเจ้าตลอดกาลเป็นนิตย์ แล้วบูชาด้วยเสียงสังข์นั่งเอง. ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ท่านได้ มีชื่อเสียงกึกก้องบันลือลั่นปรากฏไปทั่วทุกสถาน. ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในตระกูลที่ปรากฏแห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้ว ปรากฏโดยชื่อว่า มธุสสระ ดังนี้ เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์. ภายหลังท่านปรากฏชื่อว่า มธุรัสสรเถระ ดังนี้.
วันหนึ่ง ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศ ปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า วิปสฺสิสฺส ภควโต ดังนี้. คำนั้น ท่านได้กล่าวแล้วในหนหลังนั่นแล. บทว่า อโหสึ สงฺขธมโก ความว่า ชื่อว่า สังขะ เพราะขุดด้วยดีไป. อธิบายว่า เที่ยวไปในที่สุดแห่งน้ำใน สมุทร. ชื่อว่า สังขธมกะ ผู้เป่าสังข์นั้นทำเลียงให้กึกก้อง อธิบายว่า เรานั้นได้เป็นผู้เป่าสังข์นั้นเอง. คำที่เหลือในบททั้งปวง มีอรรถตื้น ทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาพุทธุปัฏฐากเถราปทาน
จบอรรถกถาสุธาวรรคที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 352
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. สุธปิณฑิยเถราปทาน ๒. สุปีฐิยเถราปทาน ๓. อัฑฒเจลกเถราปทาน ๔. สูจิตายกเถราปทาน ๕. คันธมาลิยเถราปทาน ๖. ติปุปผิยเถราปทาน ๗. มธุปิณฑิกเถราปทาน ๘. เสนาสนทายกเถราปทาน ๙. เวยยาวัจจกเถราปทาน ๑๐. พุทธุปัฏฐากเถราปทาน
ท่านประกาศคาถาไว้ ๖๐ คาถาถ้วน.
จบสุธาวรรคที่ ๑๐
อนึ่ง รวมวรรคมี ๑๐ วรรค คือ
พุทธวรรคที่ ๑ สีหาสนิยวรรคที่ ๒ สุภูติวรรคที่ ๓ กุณฑธานวรรคที่ ๔ อุปาลิวรรคที่ ๕ วีชนีวรรคที่ ๖ สกจิตคนิยวรรคท ๗ นาคสมาลวรรคที่ ๘ ติมิรปุปผิยวรรคที่ ๙ เป็น ๑๐ ทั้งสุธาวรรค.
รวมคาถาได้ ๑,๔๕๕ คาถา.
จบหมวด ๑๐ แห่งพุทธวรรค
จบหมวด ๑๐๐ ที่ ๑