[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 612
วรรคที่ไม่สงเคราะห์เป็นปัณณาสก์
อาปัตติภยวรรคที่ ๕
๕. ถูปารหสูตร
ว่าด้วยถูปารหบุคคล ๔
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 35]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 612
๕. ถูปารหสูตร
ว่าด้วยถูปารหบุคคล ๔
[๒๔๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถูปารหะ (บุคคลผู้ควรนำอัฐิธาตุบรรจุสถูปไว้บูชา) ๔ จำพวกนี้ ถูปารหะ ๔ เป็นไฉน คือ
ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ปจฺเจกพุทฺโธ พระปัจเจกพุทธะ
ตถาคตสาวโก พระสาวกของพระตถาคต
ราชา จกฺกวตฺตี พระเจ้าจักรพรรดิ
นี้แล ถูปารหะ ๔.
จบถูปารหสูตรที่ ๕
อรรถกถาถูปารหสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในถูปารหสูตรที่ ๕ ดังต่อไปนี้ :-
ในบทว่า ราชา จกฺกวตฺตี นี้ถามว่า เพราะเหตุไร พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรงอนุญาตการก่อทำสถูปแด่พระเจ้าจักรพรรดิซึ่งสวรรคตแล้ว ไม่ทรง อนุญาตให้ทำแก่ภิกษุผู้เป็นปุถุชนผู้มีศีล. ตอบว่า เพราะความเป็นอัจฉริยะ. ก็เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตสถูปทั้งหลายแก่ภิกษุผู้เป็นปุถุชน ก็จะ ไม่พึงมีช่องว่างแก่บ้านและท่าเรือในตัมพปัณณิทวีปเลย ในฐานะอื่นก็อย่างนั้น
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 613
เพราะฉะนั้น จึงไม่ทรงอนุญาตด้วยทรงเห็นว่า ภิกษุเหล่านั้นจักไม่เป็นอัจฉริยะ. พระเจ้าจักรพรรดิทรงอุบัติพระองค์เดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนั้นสถูปของ พระเจ้าจักรพรรดิจึงเป็นอัจฉริยะ. แต่ควรทำสักการะแม้ใหญ่แก่ภิกษุปุถุชน ผู้มีศีลดุจภิกษุผู้ปรินิพพานแล้วฉะนั้นโดยแท้.
จบอรรถกถาถูปารหสูตรที่ ๕