ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ท่านผู้ฟัง ผมคิดว่า ผมยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า "อนัตตา"
ท่านอาจารย์ ถ้ายังไม่รู้จักความหมายของ ธาตุ หรือ ธรรม ธาตุ ก็เป็นเรา ธรรม ก็เป็นเรา ด้วยความเห็นผิด ด้วยความทรงจำที่จำไว้ในความเป็นจริง ถ้าคิดถึง ธาตุหรือธรรมจะเห็นความไม่ใช่ตัวตน อย่างแน่นอน ถ้าพูดถึงความเป็นธาตุ ไม่มีใครบังคับบัญชาได้เลยถ้าเข้าใจความหมายของคำว่า ธาตุหรือธรรมก็พ้นวิสัยที่ใครจะเป็นเจ้าของ จะสร้างจะทำให้เกิดขึ้น แต่สิ่งนั้นมีปัจจัย จึงเกิดขึ้นได้ โดยมากเราเข้าใจเพียงรูปธาตุ แต่ว่านามก็เป็นธาตุด้วย นามธาตุหรือนามธรรมมีปัจจัยให้เกิด ก็เกิด แต่ว่าต่างจากรูปธาตุหรือรูปธรรม
นามธาตุหรือนามธรรม ต่างจากรูปธาตุหรือรูปธรรม เพราะว่าเมื่อเกิดแล้ว ต้องรู้ เพราะว่าเป็น ธาตุรู้ แค่นี้ก็จะเห็นความเป็นสาธารณะของความเป็นธาตุ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะของธาตุได้ เมื่อเป็นธาตุรู้ ก็ต้องเกิดขึ้นรู้สิ่งหนึ่งสิ่งใด
ข้อความบางตอนจาก ภัทเทกรัตตคาถา
ท่านพระมหากัจจายนะ กล่าวว่า " ท่านผู้มีอายุเรารู้ภาษิตที่ทรงแสดงโดยย่อนั้นโดยพิศดาร ว่าเมื่อบุคคลคิดว่า ในกาลล่วงแล้วตากับรูป หูกับเสียง จมูกกับกลิ่น ลิ้นกับรส กายและสิ่งที่พึงถูกต้องกาย ใจกับอารมณ์ ที่เกิดกับใจของเราแล้ว อย่างนั้นความกำหนัดพอใจในสิ่งเหล่านั้น ก็ผูกพันวิญญาณเพราะวิญญาณ อันความกำหนัดพอใจผูกพันแล้ว ผู้นั้นย่อมเพลิดเพลินในสิ่งนั้นๆ อย่างนี้ ชื่อว่า คำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วไม่คิดอย่างนั้น ไม่กำหนัดพอใจในสิ่งนั้นๆ ก็ไม่ผูกพันวิญญาณผู้นั้น ย่อมไม่เพลิดเพลินในสิ่งนั้นๆ ผู้ไม่เพลิดเพลินในสิ่งนั้นๆ อย่างนี้ ชื่อว่า ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว ฯลฯ"
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สภาพธรรมขณะนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นอนัตตา แต่ต้องเป็นปัญญาจึงรู้ความเป็นอนัตตา มีลักษณะของสภาพธรรมที่แสดงให้เห็นลักษณะว่าเป็นธรรมนั่นก็คือความเป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์บุคคลแล้ว เกิดขึ้นและดับไปบังคับบัญชาไมได้ การรู้ความจริงของธรรมเพื่อประจักษ์ความเป็นอนัตตาคือขณะนี้ ไม่ใช่ขณะที่ล่วงไปแล้วและยังมาไม่ถึงครับ
ขออนุโมทนา
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
คำสอนที่แสดงความเป็นอนัตตาของทุกๆ สรรพสิ่งมีเพียงในพระพุทธศาสนาเท่านั้นเมื่อเราไม่ได้ศึกษาพระธรรมและขณะที่สติปัฏฐานไม่เกิดย่อมตามรู้และหวนคิดถึงสิ่งต่างๆ ด้วยความเป็นอัตตาจึงต้องค่อยๆ ศึกษาพระธรรมด้วยความเข้าใจเพื่อให้เห็นถึงความเป็นอนัตตาอย่างค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
...ขออนุโมทนาครับ...
พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นอนัตตา ถ้าหากว่าจักเป็นอัตตาไซร้ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นี้คงไม่เป็นไปเพื่ออาพาธ ทั้งยังจะได้ตามความปรารถนาในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่า ขอรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ก็เพราะเหตุที่รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นอนัตตา ฉะนั้น จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และไม่ได้ตามความปรารถนา ”
สาธุ
เชิญคลิกอ่านได้ที่
ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา หมายถึงอะไรครับ?
ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปัญจวัคคียสูตร .. ว่าด้วยอนัตตลักษณะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
ขออนุโมทนา และขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมค่ะที่....
อนัตตลักษณะ
ขออนุโมทนาครับ