พระไตรปิฎกที่มีอยู่ในประเทศไทยมีข้อมูลตรงกันกับของประเทศอื่นๆ ไหมคะ และประเทศใดบ้างที่มีพระไตรปิฎกคะ
ขอบพระคุณมากค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระไตรปิฎกประเทศไทยและประเทศต่างๆ ก็แปลมาจากพระบาลี แต่สำคัญที่ผู้ศึกษาจะศึกษาด้วยความเข้าใจถูกหรือไม่ และ จะเริ่มศึกษาหรือไม่เป็นสำคัญ
พระไตรปิฎกคือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงตามความเป็นจริง ที่เป็นสัจจะด้วยพระปัญญาของพระพุทธองค์ พระธรรมจึงเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้ง รู้ได้ยาก บัณฑิตเท่านั้นที่รู้ได้ครับ ในเมื่อพระธรรมที่แสดงเป็นหมวดต่างๆ เป็นพระไตรปิฎก ยาก ลึกซึ้ง แล้วจะเริ่มศึกษาอย่างไร คำตอบคือ ศึกษาจากท่านผู้รู้และผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรมอย่างดี เป็นกัลยาณมิตรผู้มีปัญญา เพราะบางครั้งการอ่านเอง เมื่อไม่เข้าใจก็คิดเองหรือคิดว่าเข้าใจแล้วครับ ดังนั้นต้องอาศัยการสอบถาม การสนทนากับผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรม อาศัยการฟังพระธรรมจากกัลยาณมิตรผู้ที่มีความเข้าใจธรรม มีท่านอาจารย์สุจินต์ เป็นต้น ซึ่งท่านก็แสดงธรรมตามพระไตรปิฎกและท่านก็ขยายความให้เข้าใจยิ่งขึ้นครับ รวมทั้งการสอบถามและสนทนากับท่านอาจารย์สุจินต์และวิทยากรที่มูลนิธิฯ ก็เป็นประโยชน์ให้เราเข้าใจขึ้นทั้งในพระธรรมตามพระไตรปิฎกที่พระพุทธองค์ทรงแสดงครับ
ธรรมไม่ใช่เรื่องรีบร้อน แต่เป็นเรื่องค่อยๆ เข้าใจ เข้าใจพื้นฐานก่อนครับ หากอ่านพระไตรปิฎกยากในส่วนใด ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ทั่วถึงในทุกส่วนหรือพยายามที่จะเข้าใจ ต้องไม่ลืมครับว่าพระธรรมที่ทรงแสดงเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้า เราก็เข้าใจได้ตามกำลังปัญญาของตนเองที่สะสมมาน้อย ที่สำคัญจะต้องรู้จุดประสงค์ในการอ่านครับว่า อ่านพระไตรปิฎกเพื่ออะไร และจุดประสงค์ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมที่รวบรวมเป็นพระไตรปิฎกนั้น จุดประสงค์ในการศึกษาคืออะไร
สำคัญคือไม่ใช่จะอ่านพยายามที่จะเข้าใจในพระธรรม แต่ควรรู้ว่าพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงในพระไตรปิฎก เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส เข้าใจสูตรไหนได้พอเข้าใจได้ ขณะที่เข้าใจก็ละความไม่รู้ ขัดเกลากิเลสในขณะนั้น พระธรรมส่วนไหน อ่านแล้วไม่เข้าใจก็คือไม่เข้าใจครับ เปลี่ยนไม่ได้ เข้าใจได้ตามกำลังปัญญา และที่สำคัญที่สุดประโยชน์ของการศึกษาพระไตรปิฎก คือ เพื่อเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ เพราะพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงก็คือสัจจะความจริงในขณะนี้เอง ขณะนี้มีธรรม ศึกษาพระธรรม ศึกษาพระไตรปิฎกก็เพื่อเข้าใจความจริงในขณะนี้ ดังนั้นเมื่อก่อนที่จะอ่านพระไตรปิฎก ก่อนจะศึกษาพระธรรม เราเริ่มด้วยความเห็นถูก เริ่มด้วยจุดประสงค์ที่ถูกคือศึกษาพระธรรมเพื่อขัดเกลากิเลสและเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ การศึกษาพระไตรปิฎกก็จะไม่เป็นไปในเรื่องการจำเรื่องราวในพระไตรปิฎก แต่เมื่ออ่านแล้วก็เพิ่มพูนศรัทธา เพิ่มพูนคุณธรรมอันเป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสและเพิ่มพูนปัญญาอันเข้าใจความจริงในขณะนี้ครับ ขอให้เริ่มด้วยปัญญามีความเห็นถูกตรงนี้ก่อนครับไม่ว่าจะอ่านหนังสือคัมภีร์ พระพุทธศาสนาหรือพระไตรปิฎกก็ตามครับ เริ่มจากความเห็นถูกตรงนี้
ส่วนเมื่อเรามีความเห็นถูกอย่างนี้แล้ว ก็เริ่มจากฟังพระธรรมที่ผู้รู้ ผู้มีปัญญาแสดงตามพระไตรปิฎกอธิบายให้เราเข้าใจ พร้อมๆ กับอ่านพระไตรปิฎกด้วยจุดประสงค์ที่ถูก อ่านในหมวดที่พอที่จะเข้าใจได้และเมื่อไม่เข้าใจ สงสัยก็สอบถามกับผู้ที่สามารถอธิบายให้เข้าใจ ประโยชน์ของการเข้าใจพระธรรมจึงต้องอาศัยกัลยาณมิตร การสอบถามและการสนทนาครับ
ดังนั้นจึงไม่ต้องเป็นผู้ที่จะมุ่งให้เข้าใจพระธรรม โดยศึกษาหลายคัมภีร์ การฟังพระธรรมนั่นเองครับเมื่อปัญญาเจริญขึ้น ถูกต้องแล้ว เข้าใจจริงๆ เมื่อไปอ่านพระไตรปิฎกก็จะค่อยๆ เข้าใจขึ้น แต่ทีละเล็กละน้อยครับ แต่ก็เป็นประโยชน์ แต่ที่สำคัญต้องอาศัยกัลยาณมิตรและการสนทนา การสอบถามจากผู้รู้ มีท่านอาจารย์สุจินต์ เป็นต้นครับเพื่อความเข้าใจที่ถูกขึ้น ซึ่งหนังสือที่มูลนิธิฯ และไฟล์เสียงธรรมของท่านอาจารย์สุจินต์ก็ได้อธิบายพระธรรมในพระไตรปิฎกได้เป็นอย่างดี ให้เราเข้าใจได้ ขณะที่เข้าใจขึ้นเพราะอาศัยการฟังก็เหมือนกับการอ่านพระไตรปิฎกนั่นเองครับ ค่อยๆ ศึกษาเบื้องต้นไปก่อนครับ ซึ่งในหมวดพระไตรปิฎกก็มีเรื่องที่พอจะศึกษาได้เช่น ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ก็อ่านดีครับ และก็พร้อมกับการศึกษาพื้นฐานพระอภิธรรมที่ท่านอาจารย์สุจินต์บรรยายไว้ก็จะทำให้เข้าใจขึ้นเมื่ออ่านพระไตรปิฎกครับ สำคัญที่กัลยาณมิตรการสนทนา การสอบถามและการค่อยๆ ศึกษาพระธรรมไป ด้วยความสบายไม่เร่งรีบครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การที่จะเป็นผู้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกตรงตามความเป็นจิรงของธรรม ก็ต้องมาจากการได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ความละเอียดของพระธรรม ต้องหาจากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงตรัสรู้แล้วทรงแสดงธรรมเกื้อกูลแก่สัตว์โลก ซึ่งสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ จากการได้เห็นประโยชน์ของพระธรรมของพระอริยเจ้าทั้งหลายที่ดำรงรักษาไว้ซึ่งพระธรรมคำสอนเพื่อประโยชน์แก่ชนรุ่นหลังๆ พระธรรมเป็นเรื่องยาก จึงต้องค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ศึกษา ไตร่ตรองในเหตุในผลของธรรม ไปตามลำดับ เข้าใจตามกำลังปัญญาของตนเอง แค่ไหนก็แค่นั้น ขอเพียงมีความจริงใจที่จะศึกษา เพราะธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นวาจาสัจจ เป็นคำจริงทุกคำ และที่สำคัญทุกคำในพระไตรปิฎก เป็นไปเพื่อปัญญา เป็นเรื่องของปัญญาโดยตลอด ซึ่งผู้ศึกษาจะต้องเป็นผู้ตรงต่อตนเอง ว่าศึกษาเพื่ออะไร เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เพื่อขัดเกลากิเลส เพื่อละคลายความไม่รู้ ละคลายความเห็นผิด เป็นต้นซึ่งเป็นกิเลสที่แต่ละคนสะสมมาอย่างยาวนานในสังสารวัฏฏ์ ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่นเลย เพราะฉะนั้น แทนที่จะคิดถึงเรื่องอื่น ก็เริ่มต้นที่จะศึกษาพระธรรม เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณธรรมะอธิบายจากทุกท่านที่เป็นผู้รู้ค่ะ และเห็นคุณค่าในธรรมะที่มีแก่นสารจริงๆ ค่ะ
เวลาได้ฟังธรรม หรือสนทนาธรรมกับผู้รู้ในพระธรรมแล้ว ควรศึกษาพระธรรมจากพระไตรปิฎกด้วยก็จะเกิดสัมมาทิฏฐิตามลำดับ เพราะถ้าไปฟังธรรม หรือสนทนาธรรมกับผู้ที่ไม่รู้จริงในพระธรรม ก็อาจทำให้เราหลงเชื่อหรือเข้าใจผิดไปได้ว่านั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ขออนุโมทนาในกุศลจิตครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอเชิญอ่านเพิ่มเติม...
พระไตรปิฎก ๙๑ เล่ม
การค้นหาข้อมูลจากพระไตรปิฎก