[เล่มที่ 31] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า 20
๔. ตติยสังขิตตสูตร
อินทรีย์ ๕ ไม่เป็นหมัน
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 31]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า 20
๔. ตติยสังขิตตสูตร
อินทรีย์ ๕ ไม่เป็นหมัน
[๘๘๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อินทรีย์ ๕ ประการนี้แล.
[๘๘๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เป็นพระอรหันต์ เพราะอินทรีย์ ๕ ประการนี้เต็มบริบูรณ์ เป็นพระอนาคามี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระอรหันต์... เป็นพระโสดาบันผู้สัทธานุสารี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระโสดาบันผู้ธัมมานุสารี ดังพรรณนามาฉะนี้แล บุคคลผู้บำเพ็ญอรหัตตมรรคให้บริบูรณ์ ย่อมได้ชมอรหัตตผล บุคคลผู้บำเพ็ญ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า 21
มรรค ๓ ที่เหลือให้บริบูรณ์ ย่อมได้ชมผลทั้ง ๓ เรากล่าวอินทรีย์ ๕ ว่าไม่เป็นหมันเลย.
จบตติยสังขิตตสูตรที่ ๔
อรรถกถาตติยสังขิตตสูตร
สูตรที่ ๔.
คำว่า ปริปูรํ ปริปูรการี อาราเธติ คือ ผู้กระทำอรหัตตมรรคให้บริบูรณ์ ย่อมสำเร็จอรหัตตผล.
คำว่า ปเทสํ ปเทสการี คือ ผู้กระทำมรรคบางส่วน ที่เหลืออีกสาม ก็ย่อมสำเร็จผลสามเป็นบางส่วนเท่านั้น.
ใน ๔ สูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงอินทรีย์คละกันไป ด้วยประการฉะนี้.
จบอรรถกถาตติยสังขิตตสูตรที่ ๔