นมตฺถุ รตฺตนะ ตสฺยสฺสะ.
ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระรัตนตรัย
1.ถ้าพระภิกษุกระทำอาบัติปาราชิกปกปิดไว้มิได้สึกออกมา ไม่สามารถทำ ฌานวิมุตติ ให้แจ้งได้ แต่สามารถทำขนิกสมาธิ อุปจารสมาธิ หรือ ในทางวิปัสสนาสามารถทำ สัมมสณญาณได้เกิดขึ้นได้หรือไม่ อย่างไร
2.และถ้าพระภิกษุผู้กระทำอาบัติปาราชิก ยังครองผ้ากาสายะอยู่ด้วยปกปิดไว้ แต่มีความละอายสมาทานรักษาซึ่งข้อวัตรอื่นๆ อย่างมั่งคง ตั้งตนโดยชอบ หมั่นประกอบกิจสงฆ์ บำเพ็ญกุศลกรรมบถมีให้ทานเป็นอันมาก เป็นต้น ครั้งถึงเวลากายแตกทำลายขันธ์ลงสามารถเกิดในสวรรค์ได้หรือไม่ หรือ ถ้าไม่สึกต้องลงนรกอย่างเดียว
3.ภิกษุผู้กระทำอาบัติรองลงมา คือ สังฆาทิเสส ปกปิดไว้ สามารถกระทำ ขนิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปณาสมาธิ ให้เกิดขึ้นได้หรือไม่ อย่างไร
4.ภิกษุผู้พรากสัตว์จากชีวิต ด้วยเจตนา กอรปกับพยายาม ครั้นสำนึกได้เข้าไปหาภิกษุอีกรูปนั่งอยู่ สาธยายซึ่งอาบัติของตนอยู่ อาบัติย่อมสิ้นสุดลงแล้ว มีคำถามว่า ภิกษุต้องรับกรรมอันได้ทำลงไปหรือไม่ อย่างไร
1.ในอรรถกถาอลคัททูปปมสูตร อธิบายว่า พระภิกษุแกล้งต้องอาบัติทุกข้อ เป็นอาณาวีตกกมะ อันตรายิกธรรม คือ ทำอันตรายต่อสวรรค์และนิพพาน. คือ ปิดกั้นการเกิดในสุคติ ปิดกั้นอุตตริมนุสสธรรมทั้งหมด ส่วนกุศลขั้นกามาวจรไม่กั้น อนึ่งถ้าท่านมีปัญญาสามารถเจริญวิปัสสนาได้ ท่านต้องมีหิริโอตตัปปะ แก้ไขให้ถูกต้องด้วยการเปลี่ยนเพศแน่นอนครับ
2.เกิดในอบายอย่างเดียวครับ
3.เหมือนข้อ 1
4.เมื่อแสดงอาบัติแล้วก็พ้นจากอาบัติ ส่วนกรรมไม่พ้น
ตราบใดที่ยังมีขันธ์เหลืออยู่ ย่อมมีอกุศลวิบากเกิดขึ้นได้ตามสมควรแก่เหตุ
ขออนุโมทนา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ