เพราะไม่รู้ จึงอยู่มาในหล้าโลก
โดย khampan.a  27 ธ.ค. 2564
หัวข้อหมายเลข 41806

หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๖๐๗]

เพราะไม่รู้ จึงอยู่มาในหล้าโลก


คุณอรวรรณ เชิญรุ่งโรจน์ : บทกลอนนี้ ก็จะบอกว่า

เพราะไม่รู้ จึงอยู่มา ในหล้าโลก

เพราะไม่รู้ จึงเศร้าโศรก ในสงสาร

เพราะไม่รู้จึง เป็นเรา เขลามานาน

เพราะไม่รู้ จึงคบพาล เผาผลาญตน

เพราะรู้คุณ ของพระธรรม จึงร่ำเรียน

เพราะรู้ธรรม จึงพร่ำเพียร เพิ่มกุศล

เพราะรู้ชัด จึงไม่ใช่ สัตว์บุคคล

เพราะรู้ละ ตัวตน จึงพ้นภัย

คือ ครั้งแรกที่มีโอกาสได้ยินได้ฟังบทกลอนบทนี้ก็จะรู้สึกว่า คือ เดิมทีก็จะรู้สึกว่าอาจารย์อรรณพทำอะไรได้เยอะแยะ เก่ง แต่พอได้เห็นอาจารย์อรรณพแต่งกลอนอันนี้ก็จะมีความรู้สึกว่าเหมือนกับเป็นการกลั่นกรองความเข้าใจพระธรรมออกมาเป็นคำกลอนให้เราได้เข้าใจไปตามนั้น แต่เนื่องจากความลึกซึ้งของพระธรรมก็จะมีมาก จริงๆ ก็รู้ว่าทุกอย่าง พระพุทธพจน์ก็ทำให้เข้าใจสิ่งที่มีกำลังปรากฏ ก็จะขอโอกาสสนทนากับท่านอาจารย์ว่าจะเข้าใจความเป็นสิ่งที่กำลังปรากฏ ในบทกลอนนี้อย่างไร

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ : ก็ต้องทีละบรรทัด

คุณอรวรรณ เชิญรุ่งโรจน์ : เพราะไม่รู้ จึงอยู่มา ในหล้าโลก

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ : ก็คือเกิดแล้ว ทุกชาติไป แล้วก็อยู่ไปทุกชาติ ด้วยความไม่รู้ เพราะไม่รู้ จึงเกิดหรือจึงอยู่มาในหล้าโลก ใช่ไหม? ก็เดี๋ยวนี้เอง ทุกอย่างเป็นความจริงที่เราต้องคิดว่า ที่เราเกิดแล้วก็อยู่อย่างนี้ทุกวันๆ เพราะไม่รู้ความจริงว่า แท้ที่จริงแล้ว ใครจะไม่เกิดได้ไหม? เกิดแล้วจะไม่อยู่ในโลกนี้ได้ไหม? ก็ไม่ได้เลย เพราะเหตุว่า ไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรม แต่เมื่อเป็นความไม่รู้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นธรรม คิดว่าเป็นเรา เพราะฉะนั้นตั้งแต่เกิดมาก็ไม่รู้ว่า เพราะมีเหตุที่จะทำให้ต้องเกิดขึ้น และต้องอยู่ในโลกนี้ด้วย ออกจากโลกนี้ไปโลกไหนได้ไหม? ถึงอย่างไรๆ ก็เป็นคนนี้ จนกว่าจะถึงเวลาที่กรรมทำให้สิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้ แล้วก็เป็นชั่วคราวจริงๆ ถ้าอ่านชาดก เคยเป็นแล้วทั้งนั้นในพระชาติต่างๆ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านพระเทวทัตก็เคยเป็นบิดาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านพระมหากัสสปะก็เคยเป็นพระบิดาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย เพราะฉะนั้นแต่ละชาติไม่กลับมาอีกเลย ไม่ว่าชาตินั้นจะเต็มไปด้วยความสุขหรือความทุกข์ใดๆ ก็ตาม เพียงชั่วคราว พอจบสิ้นความเป็นบุคคลนั้น สิ้นชาตินั้นก็คือว่าไม่มีการที่จะเป็นบุคคลนั้นได้อีกเลย

เพราะฉะนั้นแม้ขณะนี้ แต่ละหนึ่งขณะที่ผ่านไปก็ไม่กลับมาอีก กรรมใดที่ทำแล้ว กรรมนั้นก็ไม่ได้สูญหายไปไหน แต่ก็เป็นปัจจัยสะสมอยู่ในจิตที่เป็นปัจจัยที่จะทำให้ให้ผล คือ การเกิดขึ้น แล้วก็ต้องอยู่ไปในโลก เพราะฉะนั้น เพราะไม่รู้ จึงอยู่มาในหล้าโลก


กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 28 ธ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย เข้าใจ  วันที่ 28 ธ.ค. 2564

กราบอนุโมทนาครับ