เรียนท่านผู้รู้ช่วยแจงความหมายของคำข้างต้นด้วยครับ
ขอบพระคุณครับ
พระเสขบุคคล หมายถึง บุคคลยังต้องศึกษาในสิกขา ๓ เพื่อดับกิเลสได้แก่ บุคคล ๗ ประเภทคือ โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล สกทาคามิมรรค สกทาคมิผล อนาคามิมรรค อนาคามิผล อรหันตมรรค
พระขีณาสพ หมายถึง บุคคลสิ้นอาสวะแล้ว ผู้กระทำกิจเสร็จแล้ว เป็นพระอรหันต์
กัลยาณปุถุชน หมายถึง ปุถุชนที่มีธรรมดี ได้ศึกษาพระธรรมคำสอน
พาลปุถุชน หมายถึง ปุถุชนผู้มืดบอด ไม่มีศึกษาพระธรรมคำสอน
ขอเชิญตลิกอ่านได้ที่ ...
เสกขบุคคลและอเสกขบุคคล [ธาตุกถา-บุคคลบัญญัติ]
ปุถุชนมี ๒ พวก
พระเสขบุคคล หมายถึง บุคคลที่ยังต้องศึกษา จนกว่าจะเป็นพระอรหันต์
พระอเสขบุคคล หมายถึง บุคคลที่ไม่ต้องศึกษาแล้ว ได้แก่ พระอรหันต์
กัลยาณปุถุชน ได้แก่ ผู้ที่มีคุณธรรม ศึกษาธรรมเพื่อขัดเกลากิเลส เพื่อสิ้นอาสวะกิเลสในวันหนึ่ง
พาลปุถุชน ได้แก่ ผู้ทุศีล ผู้ที่ทำอกุศลกรรมบถ 10 ไม่มีคุณธรรม ไม่ศึกษาธรรม
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขออธิบายเพิ่มเติม อีกนัยหนึ่งของ พระเสขบุคคล คือ พระอริยบุคคล 7 จำพวกคือ โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล สกทาคามิมรรค สกทาคามิผล อนาคามิ-มรรค อนาคามิผล อรหัตตมรรค เป็น 7 จำพวกชื่อว่าพระเสข ผู้ที่ยังต้องศึกษาและรวมถึงกัลยาณปุถุชนด้วย ก็ชื่อว่า พระเสขะ เช่นกัน เพราะก็ยังศึกษาอยู่ (อบรมปัญญา) จนถึงอรหัตถผล ชื่อว่าไม่ต้องศึกษาแล้ว เป็นพระอเสขบุุคคลรับดังข้อความในพระไตรปิฎกครับ ลองอ่านดูนะ
เชิญคลิกอ่านได้ที่...
เสกขะเพราะได้เสกขธรรม [อรรถกถาปฐมเสขสูตร]
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ