ไม่มีใครทราบได้ว่าขณะต่อไปจะเห็นอะไร จะเกิดอะไรขึ้น แม้แต่ผู้ที่ได้รับภัยพิบัติ ก็ไม่ได้รู้ล่วงหน้ามาก่อนเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างให้ทราบว่ามีปัจจัยก็เกิด
สำหรับเรื่องของการช่วยเหลือ การช่วยบุคคลอื่นเป็นกุศลจิต ความทุกข์มีหลายรูปแบบ ทุกข์ไม่มีที่อยู่อาศัย และทุกข์อะไรๆ อีกมากมาย การช่วยเหลือของแต่ละบุคคลตามความถนัด และตามความสามารถ ผู้ใดมีความสามารถในเรื่องการสร้างที่พักก็ช่วยในเรื่องนั้น ผู้ใดมีความสามารถที่จะสะสมอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะบริจาคก็ช่วยเรื่องนั้น แต่ละคนก็มีกุศลจิตตามความถนัด
ถ้าเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจธรรม ก็จะมีความเข้าใจว่า ช่วยคนอื่นถ้าเขายังมีความเห็นผิด หรือว่ามีความไม่รู้ ช่วยเท่าไรก็ไม่จบ เพราะว่ายังคงมีความเห็นผิดต่อไป และก็ยังมีอกุศลต่อไป ซึ่งจะทำให้ทำอกุศลกรรมซึ่งเป็นเหตุให้เขาต้องได้รับอกุศลวิบากซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกภพทุกชาติ
บุคคลใดพร้อมที่จะฟังสิ่งที่มีเหตุผล เราก็อาจจะสนทนากับเขา เป็นการสนทนาธรรมในเรื่องที่เขาพร้อมที่จะเข้าใจได้ในขณะนั้น เช่น ทุกคนไม่มีใครหวังว่าสิ่งที่ร้ายๆ จะเกิดขึ้น แต่ว่าทุกคนเมื่อมีกรรมที่ได้กระทำแล้ว เมื่อกรรมนั้นถึงกาลที่ให้ผลก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวอย่างของผู้ที่ได้รับภัยพิบัติร่วมกันมีนานาอาชีพ นานาวัย ต่างกันไปโดยประการต่างๆ เมื่อถึงกาลที่กรรมของแต่ละบุคคลจะให้ผล ก็ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้เลย อย่างนี้ก็ค่อยๆ แสดงให้เขาเห็นความจริงว่า ทุกอย่างไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เขาก็จะเริ่มเข้าใจความหมายของอนัตตา และก็ยังแสดงให้เห็นว่าการที่เมื่อมีภัยพิบัติเกิดขึ้นแล้ว แต่ละคนได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน บางคนก็รอดชีวิตได้แต่ก็มีบาดแผลมีอะไรต่างๆ
นี่ก็แสดงให้เห็นถึงการให้ผลของกรรมของแต่ละคนซึ่งก็ต่างกันไป ถ้าสามารถที่จะทำให้เขาเข้าใจได้ถูกต้องในเรื่องของกรรม และผลของกรรม ก็จะทำให้เขาค่อยๆ คลายความเศร้าเสียใจว่าทำไมเขาถึงได้รับผลอย่างนี้ ก็เป็นเรื่องที่ต้องพร้อมทั้งผู้รับ และผู้ให้ด้วย
รับฟังเพิ่มเติม
การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้ได้รับทุกข์
เมตตา
กราบอนุโมทนาค่ะ