บุญบวชคืออะไร?
พระที่บวชมาแล้วไม่ได้ปลงอาบัติก่อนสึกจะยังได้รับบุญบวชนั้นอยู่ไหมครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บุญ หรือ กุศล เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ดี อันมีสภาพธรรมที่เป็นฝ่ายดีเกิดร่วมด้วยและขณะนั้นก็ไม่มีอกุศลที่เป็นโลภะ โทสะ และโมหะเกิดขึ้นเลยในขณะที่เป็นบุญ ครับ
บุญ เป็นสภาพธรรมที่ชำระจิตให้สะอาด (เพราะโดยปกติแล้วจิตสกปรกด้วยอำนาจของอกุศลธรรม) ขณะที่เป็นบุญ ขณะนั้นจิตสะอาดจากอกุศล คือ โลภะ โทสะ และโมหะ บุญ หรือ สภาพจิตที่ดี ที่เป็นกุศล มีหลายประการ ตามระดับและลักษณะของบุญ ครับ
บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ หมายถึง ที่ตั้งแห่งการกระทำความดี ๑๐ อย่าง หมายถึง กุศลจิตที่มีกำลังจนทำให้มีการกระทำออกมาทางกาย วาจา หรือทางใจ ได้แก่ ...
๑. ทานมัย บุญสำเร็จจากการให้วัตถุเพื่อสงเคราะห์หรือบูชาแก่ผู้อื่น
๒. ศีลมัย บุญสำเร็จจากการงดเว้นจากทุจริตกรรม หรือ ประพฤติสุจริตทางกาย ทางวาจา
๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จจากการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส (สมถภาวนา) และการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสทั้งปวง (วิปัสสนาภาวนา)
๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จจากการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน
๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จจากการขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น
๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จจากการให้ส่วนบุญที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว
๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จจากการยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว
๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จจากการฟังพระสัทธรรม
๙. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จจากการแสดงพระสัทธรรม
๑๐. ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความเห็นให้ตรงถูกต้องตามความเป็นจริง
ซึ่งขณะใดที่จิตใจ เป็นไปใน บุญ ๑๐ ประการนี้ ก็ชื่อว่าเป็นบุญ
การบวช หรือ บรรพชา หมายถึง การเว้นทั่วจากกิเลสทั้งปวง ซึ่งจุดประสงค์ในการบวชที่ถูกต้อง คือ เพื่อสละละกิเลสประการทั้งปวง ไม่ใช่เพราะประเพณี หรือ เหตุอื่นๆ การบวช จึงจะต้องเป็นเรื่องของปัญญาที่เห็นโทษของการครองเรือน จึงสละทุกสิ่งด้วยความเป็นอัธยาศัยที่สะสมมา จึงสละทุกอย่าง และอบรมปัญญาเพียงอย่างเดียวเพื่อพ้นจากทุกข์ ดังนั้น พระพุทธเจ้าตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า หากว่ามีใครถามเธอว่า เธอบวชเพื่ออะไร เธอจึงตอบเขาว่า เพื่อกําหนดรู้ทุกข์ รู้ทุกข์ คือ สภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา และเป็นไปเพื่อละคลายกิเลสทั้งหมด ครับ
ดังนั้น การบวชเป็นเพศบรรพชิต จึงต้องมีความจริงใจที่จะบวชเพื่อ สละ ละกิเลสจนหมดสิ้น จึงสละทุกสิ่ง ไม่เป็นดังเช่นคฤหัสถ์อีกแล้วครับ
ดังนั้น บุญบวช ตามที่เข้าใจกันเอง คือ บวชแล้วได้บุญ แท้ที่จริง ตามที่ได้อธิบายลักษณะของบุญว่า คือ อะไร ข้างต้นมานั้น หากว่าบวชแต่ไม่ประพฤติตามคำสอน ผิดพระวินัย ขณะนั้นก็ไม่ใช่บุญ จะกล่าวว่าบวชได้บุญมากไม่ได้เลย ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก็ขอให้ได้เข้าใจว่า อาบัติทุกข้อจะมีเฉพาะในขณะที่ปฏิญานตนว่า เป็นพระภิกษุเท่านั้น และเป็นเครื่องกั้นมรรคผลนิพพาน ตลอดจนถึงกั้นการเกิดในสุคติภูมิด้วย ถ้ามรณภาพลง ในขณะที่เป็นพระภิกษุอยู่ โดยที่ไม่ได้แก้ไขอาบัติที่ตนเองต้อง ให้เป็นไปตามพระวินัย ก็จะเป็นผู้มีอบายเป็นที่ไปในเบื้องหน้านี้คือกล่าวถึงในขณะที่ปฏิญญญาณว่าเป็นพระภิกษุอยู่, การต้องอาบัติไม่ใช่บุญ ขณะที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เช่น ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรมให้เข้าใจ เป็นต้น จึงจะเป็นบุญ ขณะนี้ได้ลาสิกขามาเป็นคฤหัสถ์แล้ว ก็ไม่มีอาบัติติดตัวอีกต่อไป เพราะฉะนั้นแล้ว ก็ขอให้ตั้งใจเป็นคฤหัสถ์ที่ดี มีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม พร้อมทั้งไม่ละเลยโอกาสของการเจริญกุศลประการต่างๆ ในขีวิตประจำวันต่อไป ถ้าสะสมในสิ่งที่ดีอย่างนี้เป็นบุญแล้วในขณะนั้น ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
บุญอยู่ที่จิตใจ ขณะที่เป็นกุศลก็เป็นกุศล ถ้าสึกมาอาบัติไม่มี แต่ถ้ากลับไปบวชใหม่ อาบัติก็ยังมีเหมือนเดิม ถ้ารู้อยู่ก็ต้องไปแสดงอาบัติอันนั้น ถ้าไม่แสดงอาบัติก็เป็นเครื่องกังวล เครื่องกั้น ที่สำคัญบวชเข้ามาก็ต้องศึกษาพระธรรมวินัย ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาคะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ