หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๔๖๐]
พระธรรม เป็นกระจกส่องใจของแต่ละท่าน
อภัยทาน ไม่ต้องมีวัตถุไทยธรรมที่จะให้ แต่ก็ควรพิจารณาว่า จะยากกว่าการสละวัตถุทานหรือเปล่า? เพราะเหตุว่าเป็นการสละความเห็นแก่ตัว ความรักตัวในการที่ไม่อภัยในความผิดของคนอื่นหรือในความบกพร่องของคนอื่น ขณะที่ไม่อภัยให้บุคคลอื่น ขณะนั้นลองพิจารณาดูว่า เพราะรักตัวเองหรือเปล่า ที่ทำให้ไม่สามารถที่จะอภัยในความผิดหรือในความบกพร่องของคนอื่นได้ ลึกลงไปจริงๆ เป็นเพราะความรักตัว ความยึดมั่นในตัวตนหรือเปล่า? การสละความเห็นแก่ตัวขั้นอภัยทาน ทำให้สละความคิดร้าย สละความแค้นเคือง สละความผูกโกรธ สละความไม่หวังดี สละความไม่เป็นมิตร สละความไม่เกื้อกูล สละความไม่มีน้ำใจต่อคนอื่น
ทุกคนพระธรรมเหมือนกระจกที่จะส่องตัวของท่าน ให้รู้จักตัวของท่านตามความเป็นจริงชัดเจนว่า ท่านมีทานขั้นไหน เพียงวัตถุทาน หรือว่าอภัยทานด้วย เพราะบางคนสละวัตถุง่าย แต่อภัยทานยาก เพราะฉะนั้นก็เห็นความเห็นแก่ตัว ความยึดมั่นในตัวตน ความรักตัว ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ไม่อภัยในความผิดและความบกพร่องของคนอื่น ถ้าเห็นความบกพร่องของตัวเองที่ไม่อภัย เห็นความเห็นแก่ตัวเองที่ไม่ให้อภัยคนอื่น ก็ควรที่จะเห็นความเห็นแก่ตัวนั้นว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ น่ากลัว และก็ควรที่จะรีบอภัยให้ทันที จะไม่มีอกุศลธรรมที่น่ารังเกียจที่เป็นความเห็นแก่ตัวนั้นๆ
ก็ควรที่จะคิดต่อไปอีกว่า ผู้ที่ควรแก่การรับอภัยทานนั้นมีใครบ้าง เพราะว่าบางคนก็ช่างคิด คนนี้อภัยให้ได้ คนนั้นอภัยให้ไม่ได้ นี่ก็เป็นเรื่องของอกุศลทั้งนั้น ไม่มีความเสมอกันในสภาพธรรมที่ยึดถือว่าเป็นบุคคลต่างๆ เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะพิจารณาว่า ผู้ที่ควรแก่การที่จะรับอภัยทานนั้นมีใครบ้าง จะเว้นไหมหรือไม่ควรเว้น ทุกคนไม่ว่าคนดีและคนชั่ว บางคนอาจจะอภัยให้เฉพาะคนดี เพราะเหตุว่าเขาดีก็อภัยให้ แต่คนชั่วไม่อภัย
ลองพิจารณาจิตในขณะนั้นจริงๆ พระธรรมที่ทรงแสดงให้เห็นถึง โลภะ ความยึดมั่นในความเป็นตัวตนและอโลภะ ที่จะค่อยๆ สละความยึดมั่นในความเห็นแก่ตัวหรือในความเป็นตัวตน ที่จะต้องไม่ใช่แต่เฉพาะสละวัตถุเป็นทานเท่านั้น แม้อภัยทานก็ควรที่จะมีแก่ทุกคน ไม่ใช่แต่เฉพาะกับคนดี เพราะเหตุว่าคนดีก็อาจจะมีบางครั้งบางคราวซึ่งผิดพลาดพลั้งเผลอ ทำให้คนอื่นคิดมากเป็นทุกข์โดยไม่ตั้งใจ เพราะว่าทุกคนเป็นอย่างนี้ วันหนึ่งสุขทุกข์ก็เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ต่างๆ เรื่องราวต่างๆ บุคคลต่างๆ อาจจะเป็นโดยความบังเอิญ โดยความประจวบกันของเรื่องราวและเหตุการณ์อื่นๆ หรือว่าการฟังผิด การคิดผิด การเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ ก็ผสมผสานกัน ทำให้โลภะซึ่งเป็นความรักตน ยึดมั่นในตน เป็นเหตุให้ผูกโกรธและไม่อภัยในกาย วาจา ใจของคนอื่น ซึ่งขณะที่ไม่อภัยให้นั้น ขณะนั้นไม่ได้สละความเห็นแก่ตัวของตนเอง
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ