[คำที่ ๑๒] ถามะ
โดย Sudhipong.U  17 พ.ย. 2554
หัวข้อหมายเลข 32132

ภาษาบาลี ๑ คํา คติธรรมประจําสัปดาห : “ถามะ — กําลังใจ”

โดย อ. คำปั่น อักษรวิลัย

คําวา กําลังใจ คํานี้ภาษาบาลีในพระไตรปฎก คือ ถาม (อานวา ถา-มะ) มีรากศัพทมาจาก ฐา ธาตุ ลงในอรรถวา* ตั้งมั่น ดํารงมั่น + ม ปจจัย แปลง ฐ เปน ถ จึงสําเร็จรูป เปน ถาม (“ถามะ” เปนคนละคํากันกับคําวา “ถาม” ในภาษาไทย) แปลวา กําลัง กําลังที่ทําใหตั้งมั่น กําลังที่ทําใหดํารงมั่น และในบางแหงแปลวา ความเพียร ความบากบั่น แตสําหรับในที่นี้ ขอเสนอในความหมายที่ แปลวา กําลัง โดยมุงหมายถึงกําลังใจ ซึ่งก็คือ กําลังแหงปญญา ตามขอความใน พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย สถาควรรค ชฏิลสูตร และอรรถกถา ดังนี้

พระผูมีพระภาคเจา ตรัสกับพระเจาปเสนทิโกศลวา “ดูกอนมหาบพิตร กําลังใจ พึงรูไดในคราวมีอันตราย ก็กําลังใจนั้น จะพึงรูไดดวยกาลนาน ไมใชดวยกาลเล็กนอย ผูใสใจจึงจะรูได ผูไมใสใจก็ไมรู ผูมีปญญาจึงจะรูได ผูมีปญญาทรามก็ไมรู”

ในอรรถกถาแกไววา* บทวา* ถาโม ไดแก กําลังแหงญาณ (ปญญา). จริงอยู กําลังแหงญาณของผูใดไมมีเมื่อเกิดอุปทวันตรายขึ้น ผูนั้นก็มองไมเห็นการถือสิ่งที่ควรถือ มองไมเห็นกิจที่ควรทํา ยอมประพฤติเหมือนดังเขาไปยังเรือนที่มืดตื้อ ดวยเหตุนั้นพระผูมีพระภาคเจาจึงตรัสวา ขอถวายพระพร บุคคลพึงรูกําลังแหงญาณได ก็ในคราวที่มีอันตราย

เปนความจริงที่วา ไมมีบุคคลหนึ่งบุคคลใดที่จะหลีกหนีผลของกรรมไปได กรรมที่ตนไดกระทําไวแลวในอดีต ถึงคราวที่จะใหผล ผลก็ยอมเกิดขึ้นตามสมควรแกเหตุ แมแตพระผูมีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจา ผูทรงเปนบุคคลผูเลิศที่สุด ประเสริฐที่สุดในโลก ก็ไมสามารถหลีกหนีผลของอดีตกรรมไปได ทานพระมหาโมคคัลลานะ พระอัครสาวกผูเลิศในทางฤทธิ์ กอนที่ทานจะปรินิพพานทานก็ถูกโจรทํารายเพราะอดีตอกุศลกรรมที่ทานไดเคยกระทําแลว ทานมีความทุกขทางกาย แตไมมีทุกขทางใจ เพราะทานเปนผูหมดจดจากกิเลสดับกิเลสทั้งปวงไดอยางหมดสิ้นแลว

สําหรับปุถุชนผูหนาแนนไปดวยกิเลส เมื่อถึงคราวที่อกุศลกรรมใหผล ไดรับสิ่งที่ไมนาปรารถนา ไมนาใคร ไมนาพอใจ ก็เปนทุกขใจ หวั่นไหวไปดวยอํานาจของกิเลส ซึ่งเปนปกติธรรมดา แตเมื่อไดฟงพระธรรม มีความเขาใจพระธรรม มั่นคงในกรรมและผลของกรรม มีความเขาใจที่คอยๆ เจริญขึ้นไปตามลําดับ ยอมจะลดความหวั่นไหว มีความทุกขใจนอยลง เพราะมีความเขาใจตามความเปนจริงวา ทุกๆ ขณะที่ไดเห็น ไดยิน ไดกลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัสกับสิ่งที่ดีหรือไมดีก็ตาม ลวนเกิดขึ้นเพราะเหตุปจจัย เปนผลของอดีตกรรมทั้งสิ้น แสดงใหเห็นวา เริ่มมีกําลังใจที่ดีเพราะกําลังใจก็คือ กําลังแหงปญญา ซึ่งถาไมไดฟงพระธรรม ไมไดศึกษาพระธรรม ไมไดอบรมเจริญปญญาก็ไมรูวาจะมีปญญามาจากที่ไหน ที่จะทําใหจิตใจเขมแข็งได

การมีโอกาสไดฟงพระธรรม ศึกษาพระธรรม และเขาใจพระธรรม จึงเปนสาระสําคัญของชีวิตที่ไดเกิดมาในชาตินี้ ปญญาเปนสภาพธรรมที่รูความจริงในสิ่งที่กําลังปรากฏ รูวาเปนสภาพธรรมที่เกิดขึ้น เพราะเหตุปจจัยแลวก็ดับไป ไมยั่งยืน บุคคลผูมีกําลังแหงปญญาที่รูความจริง จึงไมหวั่นไหว เมื่อประสบกับโลกธรรมฝายเสื่อม ไมวาจะเปนเรื่องใดๆ ก็ตาม เชน ประสบภัยอันตรายตางๆ เปนตน พรอมทั้งเปนผูที่รูวาอะไรควรทํา อะไรไมควรทําอีกดวย และในทางกลับกัน แมกระทั่งไดรับโลกธรรมฝายที่ดี ผูที่มีกําลังแหงปญญา ก็ไมหลงระเริง ไมมัวเมา ดังนั้นการฟงพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปญญา จึงเปนสิ่งที่สําคัญ และอุปการะเกื้อกูลตอการดําเนินชีวิตประจําวันเปนอยางมาก เพราะเหตุวา ปญญา เปนสภาพธรรมฝายดี ที่จะทําใหแตละบุคคลเปนผูมีจิตใจที่เขมแข็ง มีกําลังใจที่ดียิ่งขึ้น และเปนที่พึ่งในชีวิตไดอยางแทจริง


อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 1 ส.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ