ขอเรียนถามว่า การที่พระพุทธเจ้ากล่าวขึ้นว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ... ตามด้วยข้อความที่พระองค์กล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพระวินัย พระสูตร เป็นการกล่าวหรือสอนเฉพาะภิกษุเท่านั้นหรือไม่ หรือว่าเป็นการสอนให้กับฆราวาสด้วย
ขอขอบคุณและอนุโมทนา
ที่อธิบายให้ความรู้ความเข้าใจถูกเสมอมาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คำว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรียกนั้น
หมายรวมถึง บริษัททั้ง ๔ ด้วยครับ ไม่ใช่เพียง พระภิกษุเท่านั้น แต่ที่พระองค์ทรงเรียกดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะ ด้วยความเป็นใหญ่ในพุทธบริษัท ๔ คือ ภิกษุบริษัท จึงตรัสเรียกด้วย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครับ
เพราะในความเป็นจริง พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ควรค่าแก่การรับฟัง ใส่ใจและพิจารณา น้อมประพฤติปฏิบัติตาม กับพุทธบริษัททั้ง ๔ สำหรับผู้ที่สะสม ศรัทธาและปัญญามา เพราะ คุณความดี ต่างๆ ที่เกิดจากากรฟังพระธรรม ไม่ได้จำกัดเฉพาะบริษัทหนึ่งบริษัทใด สามารถเกิดคุณความดี เกิดปัญญาได้ กับบริษัทใดก็ได้ ที่สะสมปัญญามา ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จากการได้ฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้ สรุปได้ว่า
พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเหมือนกับแสงพระอาทิตย์ ไม่เลือกหน้าว่าจะเป็นเศรษฐี ผู้ดี ยากจน เข็ญใจ เป็นภิกษุ เป็นภิกษุณี เป็นอุบาสก อุบาสิกา ฆราวาส ผู้ใดมีความเข้าใจสดับฟังพระธรรมเทศนา ประโยชน์ย่อมเกิดมีแก่ผู้นั้น
อ้างอิงจาก ... ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๑
พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นประโยชน์เกื้อกูลสำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษาอย่างแท้จริง โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะเพศใดเพศหนึ่งหรือวัยใดวัยหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ไม่ได้ศึกษา
เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวัยใด เพศใด สิ่งที่ประเสริฐที่สุด ก็คือ การมีโอกาสได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกเป็นปัญญาของตนเอง
พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา มีมากมาย นับคำไม่ถ้วน จะฟังครั้งเดียวไม่ได้เลย จึงต้องฟัง ต้องศึกษาบ่อยๆ เนืองๆ สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ดูกรภิกษุ เป็นคำตรัสเรียกของพระพุทธเจ้า ที่เตือนให้พุทธบริษัท ๔ ให้ตั้งใจฟังธรรม ค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอเรียนถามเพิ่มเติมว่า พระวินัยเป็นข้อกำหนดหรือข้อห้ามสำหรับพระภิกษุอย่างเดียวใช่ไหม ไม่ได้ห้ามฆราวาส
ขอขอบคุณและอนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
เรียนความเห็นที่ 6 ครับ
สำหรับพระวินัยบัญญัติของพระพุทธเจ้า ทรงบัญญัติสำหรับเพศพระภิกษุเท่านั้น ไม่ได้บัญญัติห้ามสำหรับเพศฆราวาส และไม่มีอาบัติสำหรับเพศฆราวาส ซึ่งพระวินัยบัญญัติก็มีข้อที่ตรัสให้ภิกษุควรประพฤติ ทางกาย วาจา
ซึ่งในบางประการแม้เพศคฤหัสถ์ ก็ควรประพฤติตามได้ แต่ไม่มีข้อห้าม สำหรับเพศคฤหัสถ์ ครับ
พระวินัยบัญญัติ จึงเป็นความงามทางกาย วาจาด้วยความดี เพราะฉะนั้น คฤหัสถ์ก็ควรศึกษา ก็จะทำให้รู้ว่าอะไรควรไม่ควรกับประพฤติกับพระภิกษุ และที่สำคัญ ในข้อพระวินัยบัญญัติ บางประการ คฤหัสถ์ก็สามารถประพฤติปฏิบัติตาม ก็นำมาซึ่งความสำรวมทางกาย วาจาด้วย ครับ เช่น การไม่คุยตอนทานอาหาร เป็นต้น ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ในครั้งพุทธกาล
ภิกษุส่วนใหญ่ประพฤติ-ปฏิบัติตามพระวินัยที่พุทธองค์ทรงบัญญัติโดยเคร่งครัด
ดังนั้นภิกษุส่วนใหญ่เหล่านั้นดูภายนอก
ทั้งอิริยาบถ การเคลื่อนไหวด้วยมือ-เท้า-กาย-วาจา
จึงไม่แตกต่างจากพระอรหันต์ ครับ