ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประมาทไม่ได้เลย ได้ยินคำว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ รู้อะไร ตรัสรู้ความจริงถึงที่สุดเปรียบเสมือนใบไม้ในป่าใหญ่ ทรงแสดงความจริงเพียงใบไม้สองสามใบในฝ่าพระหัตถ์ให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวันเท่านั้น เป็นสิ่งที่ควรรู้ เพราะเกิดแล้วดับ ไม่กลับมาอีกเลยซึ่งเป็นทุกขสัจจะ สมุทยสัจจะเป็นรากเหง้าของทุกข์ก็คือ เหตุที่ให้เกิดทุกข์ ก็คือ ตัณหา เป็นตัวเหตุที่ทำให้ต้องเกิดตายวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ และทรงแสดงนิโรธสัจจะหมายถึงพระนิพพานซึ่งเป็นสภาพที่ดับกิเลสดับทุกข์ ไม่มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรมอีกเลย และทรงแสดงหนทางที่จะดับทุกข์ คือการอบรมเจริญสติปัฏฐานหรืออริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นหนทางเดียวที่จะดับทุกข์ได้ การอบรมเจริญสติปัฏฐานก็เริ่มต้นด้วยการฟังเพื่อเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้คือ สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ขณะนี้เป็นขณะที่ควรรู้ยิ่งเป็นทุกขสัจจะ ไม่ใช่ขณะอื่นที่ไม่สามารถรู้ได้ เพราะตั้งแต่เกิดมาจนถึงขณะนี้ ไม่มีสัตว์ บุคคลเกิดมา มีแต่เพียงความจริงที่กำลังปรากฏเกิดดับสืบต่อเป็นสังสารวัฏฏ์.
[เล่มที่ 31] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 449
๑. สีสปาสสูตร
เปรียบสิ่งที่ตรัสรู้มีมากเหมือนใบไม้บนต้น
[๑๗๑๒] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ สีสปาวันกรุงโกสัมพี ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถือใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบด้วยฝ่าพระหัตถ์ แล้วตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย มาแล้วตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบที่เราถือด้วยผ่ามือกับใบที่บนต้น ไหนจะมากกว่ากัน ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถือด้วยฝ่าพระหัตถ์มีประมาณน้อย ที่บนต้นมากกว่า พระเจ้าข้า
พ. อย่างนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เรารู้แล้วมิได้บอกเธอทั้งหลายมีมาก ก็เพราะเหตุไร เราจึงไม่บอก. เพราะสิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ มิใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ นิพพานเพราะเหตุนั้น เราจึงไม่บอก
[๑๗๑๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งอะไรเราได้บอกแล้ว เราได้บอกแล้วว่า นี้ทุกข์... นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ก็เพราะเหตุไร เราจึงบอกเพราะสิ่งนั้น ประกอบด้วยประโยชน์ เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย... นิพพาน เพราะฉะนั้น เราจึงบอก ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงการทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่านี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
จบสีสปาสูตรที่ ๑
................................................................................................................
[เล่มที่ 31] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 456
๗. ปฐมสุริยูปมสูตร
(ว่าด้วยสิ่งที่เป็นนิมิตมาก่อนการตรัสรู้อริยสัจ)
[๑๗๒๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อพระอาทิตย์จะขึ้น สิ่งที่จะขึ้นก่อน สิ่งที่เป็นนิมิตมาก่อน คือ แสงเงินแสงทอง ฉันใด สิ่งที่เป็นเบื้องต้น เป็นนิมิตมาก่อนแห่งการตรัสรู้อริยสัจจ์ ตามความเป็นจริง คือ สัมมาทิฏฐิ ฉันนั้นเหมือนกัน อันภิกษุผู้มีความเห็นชอบ พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย พึงกระทำความเพียร เพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีฏิปทา.
จบปฐมสุริยูปมสูตรที่ ๗
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
เทศนาโดยลำดับแห่งอริยสัจจ์ ๔
ศึกษาธรรมเพื่อละอาลัย
อริยสัจจ์ที่ ๒ คือเหตุให้เกิดทุกข์
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
รู้ทุกขอริยสัจจ์ได้อย่างไร? [ปฐมตถาคตสูตร]
กิจของอริยสัจจ์ ๔
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ
ยินดีด้วยในกุศลของน้องเมตตาค่ะ
กราบขอบพระคุณมากค่ะพี่แดง (พล.อ.ต.หญิง กาญจนา สิงหพานิช เชื้อทอง)
กราบยินดียิ่งในความดีของพี่แดงทุกประการด้วยค่ะที่เป็นหนึ่งกำลังที่แข็งแรงที่ช่วยกันสืบทอดพระพุทธศาสนาตามท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ค่ะ