กราบเรียนถามท่านอาจารย์ทุกท่านนะคะ
มโนสุจริตทั้ง ๓
๑. อยากทราบว่าโดยองค์ธรรมของมโนสุจริตคือเจตสิกประเภทใดคะ กราบขอคำอธิบายโดยละเอียดถึงลักษณะหรืออาการที่ปรากฏของมโนสุจริตทั้ง๓ค่ะ
๒. มโนสุจริต จัดเป็นกรรมหรือไม่คะ
๓. มโนสุจริต จัดเป็นปโยคะหรือไม่คะ
๔. มโนสุจริต จัดเป็นอุปธิหรือไม่คะ
๕. มโนสุจริต เจริญได้จากเหตุใด หรือมีอะไรเป็นเหตุใกล้ให้เกิดคะ
ขอบพระคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
มโนสุจริต หมายถึง ความดีทางใจ มี ๓ ได้แก่
ความไม่เพ่งเล็งอยากได้ (อนภิชฌา) ๑
ความไม่พยาบาทปองร้าย (อัพยาปาท) ๑
ความเห็นชอบ (สัมมาทิฏฐิ) ๑
องค์ธรรม ของ อนภิชฌา คือ อโลภะ อัพยาปาท คือ อโทสะ และ สัมมาทิฏฐิ คือ อโมหะ คือ ปัญญา
มโนสุจริต เป็นกรรม และเป็นปโยคะ ความเพียรในกุศลธรรมได้ และ เป็นอุปธิได้ ที่เป็น ขันธูปธิ ที่เป็นสภาพธรรมที่ทรงไว้ซึ่งทุกข์ คือ อุปธิ ที่เป็น ขันธ์ มโนสุจริตเจริญได้ เพราะมีปัญญา มีความเข้าใจถูกเป็นเหตุให้เกิดและเจริญขึ้น ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สุจริต คือ ความประพฤติที่ดีงาม ซึ่งไม่ใช่ใครที่ประพฤติ ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน แต่เป็นสภาพธรรมฝ่ายดีเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ถ้ากล่าวถึงมโนสุจริตแล้ว ก็คือ ความไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น ความไม่พยาบาทปองร้ายผู้อื่น และความเข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ ถ้ามีความเข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ก็จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลให้มีความประพฤติเป็นไปในทางที่ดีที่ถูกที่ควร ได้ เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง และสภาพธรรมที่มีจริงๆ ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย เมื่อเกิดแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.
ขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ