- ทุกข์กายทุกข์...เป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่าครับ
- พอมีหนังสืออะไรที่จะดับทุกข์ได้ไหม ที่ทำให้ใจเย็นขึ้นครับ
- ไม่มีทางออกคิดไม่ได้ อยากคิดสั้นแต่ไม่รู้จะช่วยอะไรได้ไหม
- หวังว่าคงมีคำตอบที่ดีน่ะครับ
ทุกข์กายทุกข์ใจเป็นเรื่องธรรมดา ทุกข์/สุข เป็นของประจำโลก อยู่คู่โลกค่ะ แต่คนส่วนใหญ่มักถือเอาความยินดีพอใจว่าเป็นสุขนับเอาความโกรธและเศร้าโศกขุ่นเคืองกายใจทั้งหลายเป็นความทุกข์
ลองดูที่ หนังสือธัมมะ คลิกดูที่ เรื่อง
กรรมคำตอบของชีวิต
และยังมีอีกหลายเล่ม คลิกดาวน์โหลด เป็นไฟล์ pdf เปิดอ่านได้ด้วย Adobe Reader ค่ะ
ทางออกมักมีเสมอ ต้องใจเย็นๆ และบางครั้งเราจำต้องยอมรับด้วยว่าทางออกบางเส้นทางก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นที่พอใจของเราคนเดียวทั้งหมด คิดสั้น ไม่ใช่ทางออกของปัญหาไม่ว่าจะประเภทใดๆ ทั้งสิ้น และจะยิ่งทำให้ทุกข์ในสังสารวัฏฏ์ยาวนานขึ้นเกินกว่าที่คุณจะนึกถึงได้
เรื่องคิดสั้นหลายคนคงเคยคิด ดิฉันก็เคยคิดและได้เคยทำด้วย ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น มีแต่ยิ่งทุกข์เพิ่มไปใหญ่ กลับกัน เมื่อยอมรับว่านั่นคือทุกข์ และอยู่ร่วมกับทุกข์นั้น กลายเป็นว่า เข้าใจปัญหาได้ง่ายกว่า และแก้ไขได้ในที่สุดและแน่นอน วิธีแก้ไขนั้น ไม่จำเป็นต้องถูกใจหรือสมหวังเสมอไป
ลองดูนะคะ นี่อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด แต่ขอเป็นกำลังใจให้อดทนและค่อยๆ พิจารณาเรื่องต่างๆ ให้รอบคอบต่อไปค่ะ
ถ้าเข้าใจว่า ทุกข์กายหรือทุกข์ใจเป็น "ธรรมะ" ธรรมะก็เป็นธรรมดา คือเป็นธรรมดา ที่จะต้องทุกข์ครับ ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่ทุกข์ ไม่มีใครอยากทุกข์ ใครห้ามทุกข์ไม่ให้ เกิดก็ไม่ได้ ถ้าทุกข์จะเกิด มากบ้าง น้อยบ้าง ทุกข์ก็ยังเป็นทุกข์อยู่ดี ทุกข์กายอาจจะ ไม่ได้เกิดตลอดเวลา เพราะบางคนร่างกายแข็งแรง แต่ว่ายังมีทุกข์ใจ แม้เพียงเวลาที่น้อยไปยิ่งกว่าเสี้ยววินาที ทุกข์ใจก็เกิดได้ และเกิดเร็ว ดับเร็ว ดับหมดแล้ว หาสาระ แก่นสารให้ยึดถือไม่ได้เลยแม้แต่ขณะเดียว แม้แต่การเกิดในสวรรค์ ที่มีกายทิพย์ก็ ยังไม่พ้นเป็นทุกข์ใจ ถ้ายังเป็นผู้ที่มีกิเลสอยู่ ทุกข์ใจจึงเป็นสิ่งที่ควรศึกษาครับ
หนังสือคงดับทุกข์ให้ไม่ได้ แต่ความเข้าใจจากการฟังและการอ่าน การสนทนาธรรม อาจช่วยคลายทุกข์ได้ตามกำลังของปัญญา ที่เว็บไซด์นี้มีหนังสือธรรมะให้ดาวน์โหลด ไปอ่านได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
คลิกที่นี่ครับ ---> หนังสือธรรมะ
ทุกปัญหามีทางออก ถ้าแก้ถูกทางโดยการเริ่มศึกษาพระธรรมให้เกิดความเข้าใจใน ความเป็นจริงของชีวิตครับ ถ้าแก้ไม่ถูกทาง แก้ทั้งชีวิตก็แก้ไม่ได้ เพราะปัญหาที่มีย่อมจะยิ่งพันกันยุ่ง จนยากที่จะสางและคลายออก สุดท้ายก็ไปลงที่การคิดสั้น อย่างที่ประเทศที่พัฒนาแล้ว (ด้วยวัตถุ) อย่างเกาหลีหรือญี่ปุ่นก็มีคนฆ่าตัวตายมากขึ้นๆ เพราะความไม่รู้ว่า สาระของการมีชีวิตอยู่ต่อไปคืออะไร เหตุนี้ การคิดสั้นไม่ใช่หนทางออกที่ ดีเลย เพราะเป็นความคิดที่เป็นไปกับกำลังของอกุศล เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง และความมืดมน หดหู่ คิดเท่าไรก็คิดไม่ตก คิดเท่าไรก็วนอยู่ในความสับสนอย่างนั้น ถ้าสะสมไว้นานๆ เข้า อาจจะนำไปสู่การกระทำที่ประทุษร้ายทั้งต่อตนเองและผู้อื่นได้ครับ อย่างข่าวทางทีวีก็มีบ่อยๆ เช่น ที่คนปีนขึ้นไปบนที่สูงๆ โดยหิ้วลูกที่ยังเป็นทารกขึ้นไปด้วย เพราะความเครียดจากปัญหาที่ตนมี แท้ที่จริง ก็เป็นเพราะไม่รู้จักหนทางอบรม ให้เกิดความคิดที่ถูก คือ ไม่ได้เจริญการคิดที่เป็นไปในกุศลธรรมนั่นเองครับ
ขอแนะนำให้เริ่มศึกษาธรรมะเลยตั้งแต่วันนี้ครับ อย่ามัวรอคำตอบที่ดีจากผู้อื่นด้วย ความหวังอย่างเดียวเลย อยากคิดดี ไม่อยากคิดสั้น ก็ต้องศึกษาหนทางที่ทำให้เกิดการคิดที่ถูกต้องด้วย เพราะลำพัง แค่ "อยาก" อย่างเดียวไม่อาจจะทำให้เป็นความเป็น ผู้คิดดีสำเร็จได้ เปิดใจให้โอกาสตนเองได้เข้ามาศึกษาหนทางของผู้ที่คิดดี คิดถูกและ คิดได้ประเสริฐสูงสุด คือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะพระองค์ทรงแสดงธรรมะ ไว้โดยละเอียดยิ่ง ให้สาวกได้ฟังและพิสูจน์ได้จริง ด้วยการน้อมประพฤติปฏิบัติตาม ด้วยความเข้าใจ คือ ปัญญาครับ
ทุกคนหนีไม่พ้นความทุกข์ ถ้าเป็นทุกข์ที่เกิดจากกรรม เช่น เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ต้องหาหมอรักษาตามอาการ แต่ถ้าเป็นทุกข์ใจที่เกิดจากกิเลส รักษาได้ด้วยการฟังธรรมะ และเจริญกุศลทุกอย่าง เพราะขณะที่กุศลจิตเกิด ขณะนั้นปราศจากโรคกิเลสคือ โลภะ โทสะ โมหะ ชั่วขณะค่ะ
ควรเริ่มที่การแลกเปลี่ยน การสนทนา การฟัง การอ่านกับกัลยาณมิตร แนะนำที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และถ้าอยู่ใกล้เชียงใหม่เชิญไปแลกเปลี่ยนกันได้ทุกวันอาทิตย์เวลา ๑๔.๐๐ - ๑๖.๐๐ น.ครับ แล้วตัวท่านเองจะช่วยตัวท่านเอง
ชีวิตนี้น้อยนัก อีกไม่นานก็ต้องตายทุกคน ตายแล้วก็เกิดใหม่ วนเวียนอยู่เช่นนี้ เกิดแล้วก็ต้องกลับมาพบกับความทุกข์อีก แล้วใยไม่แสวงหาทางพ้นทุกข์เล่า