อกุศลจิตที่ไม่ล่วงเป็นกรรมบถสามารถให้ผลในปฏิสนธิกาล ปวัตติกาลในชาติต่อๆ ไปได้หรือไม่
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อกุศลจิต ถ้ายังไม่ล่วงออกมาเป็นอกุศลกรรมบถ เช่น ติดข้อง แต่ยังไม่ลักขโมยของของผู้อื่น โกรธ แต่ไม่ได้ด่าว่า ไม่ได้ประทุษร้ายบุคคลอื่น เป็นต้น ก็เป็นเพียงอกุศลจิต ไม่สามารถเป็นเหตุให้เกิดวิบาก ทั้งในปฏิสนธิกาลและในปวัตติกาล คือหลังเกิด ได้ แต่จะสะสมเป็นอุปนิสัยที่ไม่ดีต่อไป แต่ถ้าเป็นอกุศลจิต ที่มีกำลังขึ้น ล่วงออกมาเป็นอกุศลกรรมบถ ที่ครบองค์ เช่น ฆ่าสัตว์ สัตว์นั้นตาย ลักขโขยของของผู้อื่น สำเร็จ เป็นต้น ก็สามารถทำให้เกิดวิบากทั้งในปฏิสนธิกาลและในปวัตติกาล ได้ แต่ถ้าเป็นอกุศลกรรม ที่ไม่ครบองค์กรรมบถ เช่น ฆ่าสัตว์ แต่สัตว์ไม่ตาย เป็นต้น ก็สามารถให้ผลในปวัตติกาลได้ แต่ไม่สามารถให้ผลในปฏิสนธิกาล คือ ไม่มีกำลังพอที่จะสามารถนำเกิดในอบายภูมิได้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ความจริงทั้งหมดทุกประการ แล้วทรงแสดงพระธรรมให้สัตว์โลกได้เข้าใจความจริงตามพระองค์ ด้วย บุคคลผู้ที่ได้สะสมเหตุที่ดีมา มีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษา ความรู้ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ แม้แต่ในเรื่องกรรม ก็เช่นเดียวกัน เมื่อได้ฟัง ได้ศึกษา ก็จะทำให้เข้าใจละเอียดยิ่งขึ้น มีความมั่นคงในเรื่องกรรมเพิ่มขึ้น คือ มีความจริงใจที่จะสะสมเหตุที่ดี คือ กุศลทุกประการต่อไป พร้อมกันนั้นก็ละเว้นในสิ่งที่ไม่ดีที่ไม่ควร ซึ่งเป็นอกุศลกรรม ไม่ประมาทอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย และมีความมั่นคงในเรื่องผลของกรรม ด้วย กล่าวคือ เมื่อได้รับผลของอกุศลกรรม ก็จะไม่โทษคนอื่น แต่เข้าใจความจริงเพิ่มขึ้นว่าในเมื่อเป็นอกุศลกรรมที่ตนได้กระทำไว้ ผลที่ไม่น่าปรารถนา จึงเกิดขึ้น ไม่ใช่คนอื่นกระทำให้เลย หรือ ถ้าได้รับผลของกรรมที่ดี ก็จะเป็นผู้ไม่หลงระเริง ไม่มัวเมาด้วยอำนาจของอกุศลธรรม ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนั้น ต้องเป็นผู้ที่มีปัญญา อันเริ่มจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน นั่นเอง ครับ
ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เพิ่มเติม ได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ ครับ
แนวทางเจริญวิปัสสนา แผ่นที่ ๓๔ (ครั้งที่ 2016-2081)
...ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ ...
ขออนุโมทนาครับ