อาหารของสติปัฏฐาน
โดย kanchana.c  17 ก.ค. 2549
หัวข้อหมายเลข 1614

ข้อความจากคำบรรยายบางตอนของท่านอาจารย์ค่ะ

สำหรับท่านที่เห็นประโยชน์ของสติ และรู้ว่าสติที่เจริญสมบูรณ์ถึงขั้นคือ ขั้นสติปัฏฐานสามารถที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจธรรม ดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท แต่ก็ไม่ใช่ว่าสติปัฏฐานจะเกิดได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะได้เข้าใจว่า อะไรเป็นอาหารของสติ เพราะทุกอย่างที่จะเจริญขึ้น ก็จะต้องมีอาหาร

ข้อความในอังคุตตรนิกาย ปฐมปัณณาสก์ อวิชชาสูตร ข้อความบางตอน มีว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าววิชชาและวิมุตติว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร

ก็อะไรเป็นอาหารของวิชชาและวิมุตติ ควรกล่าวว่า โพชฌงค์ ๗ แม้โพชฌงค์ ๗ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของโพชฌงค์ ๗ ควรกล่าวว่า สติปัฏฐาน ๔ แม้สติปัฏฐาน ๔ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของสติปัฏฐาน๔ ควรกล่าวว่า สุจริต ๓ (เพื่อที่จะไม่ให้ขาดสติ และประพฤติทุจริต เพราะถ้ากิเลสยังมีกำลังแรง เป็นผู้ที่กระทำทุจริตอยู่เสมอ และหวังที่จะให้สติปัฏฐานเกิด ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะสติ ปัฏฐานเป็นสติขั้นที่สูงกว่า สติทั่วๆ ไป) แม้สุจริต ๓ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของสุจริต ๓ ควรกล่าวว่า การสำรวมอินทรีย์ แม้การสำรวมอินทรีย์ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของการสำรวมอินทรีย์ ควรกล่าวว่า สติสัมปชัญญะ แม้สติสัมปชัญญะเราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของสติสัมปชัญญะ ควรกล่าวว่า การทำไว้ในใจโดยแยบคาย แม้การทำไว้ในใจโดยแยบคาย เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ควรกล่าวว่าศรัทธา แม้ศรัทธาเราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของศรัทธาควรกล่าวว่า การฟังสัทธรรม แม้การฟังสัทธรรม เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของการฟังสัทธรรม ควรกล่าวว่าการคบสัปบุรุษ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังนี้ การคบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ย่อมยังการฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์ การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังศรัทธาให้บริบูรณ์ ศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยแยบคายให้บริบูรณ์ การทำไว้ในใจโดยแยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์ สติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการสำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์ การสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ย่อมยังสุจริต ๓ ให้บริบูรณ์ สุจริต ๓ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังสติปัฏฐาน ๔ ให้บริบูรณ์ สติปัฏฐาน ๔ ที่บริบูรณ์ย่อมยังโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์ โพชฌงค์๗ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ วิชชาและวิมุตตินี้มีอาหารอย่างนี้ และบริบูรณ์อย่างนี้ ฯ



ความคิดเห็น 2    โดย aob  วันที่ 17 ก.ค. 2549
อนุโมทนา

ความคิดเห็น 3    โดย Niranya  วันที่ 18 ก.ค. 2549

อนุโมทนา ค่ะ

บ้านธัมมะ ให้แสงสว่างแก่ดิฉัน. ดิฉันใคร่ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง. ขอให้ทุกท่านได้ทราบว่า ท่านได้ช่วยจุดเทียนเล่มเล็ก เล่มหนึ่งให้ได้แสงสว่างพอส่องทางของตนเอง และลูกสาว. ดิฉันอยากให้ทุกคนที่อยู่ในความมืด ได้มีโอกาสพบแสงสว่าง แห่งปัญญาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า. คนหลายคนอยู่ในความมืดจนเห็นความมืดเป็นเรื่องปกติ และทนอยู่ในความมืดนั้น.

ดิฉันจะศึกษาอย่างผู้มีสติ และนำความรู้ที่ได้มาปฎิบัติ เพื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง คือ ความพ้นไปจากทุกข์ทั้งปวง. ดิฉันมองเห็นตนเอง ถูกโซ่ตรวนอยู่ ทั้งมือและเท้า ดิฉันต้องปลดปล่อยตนเองโดยอาศัยพระธรรม. ความอิสระ จากสังสารวัฏฏ์ เท่านั้นเป็นอิสระที่แท้จริง.

ขออนุโมทนา ให้ทุกๆ ท่านพ้นจากคุก (สังสารวัฏฏ์) นี้โดยเร็ว.


ความคิดเห็น 4    โดย pornchai.s  วันที่ 18 ก.ค. 2549

ขออนุโมทนากับคุณกาญจนา และ คุณนิรันยา ครับ


ความคิดเห็น 5    โดย namarupa  วันที่ 18 ก.ค. 2549
ขออนุโมทนาเช่นกันค่ะ

ความคิดเห็น 6    โดย Komsan  วันที่ 23 พ.ย. 2550

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย พุทธรักษา  วันที่ 12 ธ.ค. 2550

เป็นเรื่องของเหตุและผลที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 8    โดย suwit02  วันที่ 27 ต.ค. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 9    โดย เซจาน้อย  วันที่ 29 ต.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 10    โดย aiatien  วันที่ 18 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 11    โดย Sam  วันที่ 28 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 12    โดย ที่พึ่งที่ระลึก  วันที่ 9 ม.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 13    โดย pamali  วันที่ 7 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ


ความคิดเห็น 14    โดย ก.ไก่  วันที่ 4 ก.ย. 2562

อนุโมทามิ

สาธุ


ความคิดเห็น 15    โดย chatchai.k  วันที่ 13 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ