ได้ฟังธรรมะบรรยายทางวิทยุบอกว่า พระพรหมส่วนใหญ่ เมื่อจุติแล้วก็มักจะตกนรกเสียส่วนมาก เลยมาลองคิดดูว่า สภาวจิตของพรหม ซึ่งยังมีความเสพคุ้นในอารมณ์ฌานเมื่อดับจิตแล้วน่าจะยังทรงอารมณ์กุศลอ่อนๆ อยู่บ้างอย่างต่ำก็อาจเป็นเพียงมนุษย์หรือเดรัจฉานบางจำพวก แต่ไม่ทราบว่า ข้อเท็จจริงแล้วเป็นเช่นไรครับ? และที่กล่าวว่าพรหมส่วนมากจุติแล้วตกนรกนั้น มีปรากฏในพระไตรปิฎกบ้างหรือเปล่าครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การเวียนว่ายตายเกิด เป็นเรื่องของบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ เท่านั้น ถ้าดับกิเลสหมดสิ้นแล้วถึงความเป็นพระอรหันต์แล้ว ย่อมไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป ดังนั้นสำหรับพรหมบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ เมื่อจุติจิตเกิด คือ เคลื่อนจากความเป็นพรหมบุคคลแล้ว มาเกิดในสุคติภูมิ จะไม่ไปเกิดในอบายภูมิทันที แต่เมื่อยังไม่ได้ดับกิเลสถึงความเป็นพระอริยบุคคล ก็มีโอกาสที่จะไปเกิดในอบายภูมิได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะประมาทกำลังของกิเลสไม่ได้เลยทีเดียว
[เล่มที่ 55] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๑- หน้าที่ ๒๒๓
.
...พระเจ้ามฆเทวะนั้น ครั้นตรัสอย่างนี้แล้วจึงสละราชสมบัติบวชเป็นฤาษีในวันนั้นเอง ประทับอยู่ในมฆอัมพวันนั้นนั่นแหละ เจริญพรหมวิหาร ๔ อยู่ ๘๔,๐๐๐ ปี ดำรงอยู่ในฌานอันไม่เสื่อม สวรรคตแล้วบังเกิดในพรหมโลก จุติจากพรหมโลกนั้น ได้เป็นพระราชาพระนามว่า เนมิ ในกรุงมิถิลานั่นแหละอีก สืบต่อวงศ์ของพระองค์ที่เสื่อมลง จึงทรงผนวชในอัมพวันนั้นนั่นแหละ เจริญพรหมวิหาร กลับไปเกิดในพรหมโลกตามเดิมอีก....
[เล่มที่ 56] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒- หน้าที่ ๔๔๕
ได้ยินว่า ในพระนครสาวัตถี ได้มีเศรษฐีชื่อว่า อุตตระ มีสมบัติมาก สัตว์ผู้มีบุญผู้หนึ่งจุติจากพรหมโลก ถือปฏิสนธิในท้องแห่งภรรยาของท่านเศรษฐี เจริญวัย มีรูปงดงามแจ่มใสมีผิวพรรณเพียงดังพรหม ...
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
ผู้เกิดเป็นพรหมถ้าใกล้จะจุติสามารถเจริญฌาณจิตให้ตนเกิดเป็นพรหมสืบต่อไปเรื่อยๆ ได้หรือไม่
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนา
พรหมจุติแล้วไปนรกไม่มี พรหมจุติแล้วเกิดในสุคติภูมิ เป็นเทวดาก็ได้ เป็นพรหมต่อก็ได้ หรือเกิดเป็นมนุษย์ก็ได้ โดยรวมแล้วท่านเกิดในสุคติภูมิก่อน ค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ยินดีในกุศลจิตครับ