ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์
โลภะเกิดขึ้นขณะหนึ่ง หรือว่า โดยชวนะ ก็เกิดดับสืบต่อกัน 7 ครั้ง ดับไปแล้ว อย่าคิดว่าไ่ม่มีกำลัง
ชวนจิตเกิดดับสืบต่อซ้ำกัน 7 ขณะ มากกว่า จักขุวิญญาณจิต หรือ ว่าสัมปฏิจฉันนจิต สันตีรณจิต โวฏฐัพพนะจิต แต่ว่าเพราะ การเกิดดับของจิต เป็นไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน เพราะฉะนั้นในขณะนี้ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าชวนจิตเกิดดับไป 7ขณะนี่กี่ครั้ง กี่วาระแล้ว ในขณะที่กำลังฟังธรรมหรือว่าในขณะที่เป็น โลภชวนะ โทสะชวนะ ก็ตาม แม้ว่าจะเกิดดับซ้ำกัน 7 ขณะ ก็แสนเร็ว และก็ดับไปแล้วก็จริงแต่ อย่าคิดว่าไม่มีกำลัง สะสมสืบต่อในจิต ที่เกิดดับ สืบต่อมาทุกๆ ดวง จึงเป็นอนันตรูปนิสสยปัจจัย ที่จะทำให้ลักษณะของ โลภะ เช่นนั้นๆ เกิดขึ้นอีก หรือว่า โทสะ โมหะ หรือว่า มหากุศล ที่เป็นไปในทาน ในศีลบ้าง เช่นนั้นๆ เกิดขึ้นอีก
เพราะการสะสมสืบต่อที่เกิดดับของจิตทุกดวงนั่นเอง
เพราะฉะนั้น จึงเป็นผู้ที่ไม่ประมาท
ทำไม โลภะ จึงมีมาก เพราะเคยเกิดมาแล้ว 7 ขณะๆ ทุกวาระไปบ่อยๆ เนืองๆ สะสมโดย อนันตรปัจจัย และมีกำลัง เมื่อเป็นอนันตรูปนิสสยปัจจัย
ไม่รู้เลยใช่ไหมว่า จะมีกำลังถึงอย่างนี้
แต่ผลปรากฏว่า ชีวิตแต่ละคนๆ มีอุปนิสสัยต่างๆ กันตาม อนันตรปัจจัย และอนันตรูปนิสสยปัจจัย ที่ได้สะสมมาจนกระทั่งเป็นปกติ เป็น ปกตูปนิสสยปัจจัย
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
อย่าคิดว่า อกุศล แม้เพียงน้อย จะไ่ม่มีกำลัง และ ไม่มีโทษ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ฉะนั้น ชวน ๗ ขณะนี้จึงสำคัญมาก คัดลอกจากหนังสือ อ.เสถียร โพธินันทะ ว่าจิตเสวยอารมณ์ มีรูปารมณ์ เป็นต้นว่า ดีหรือชั่ว หยาบละเอียด เกิดดับอยู่อย่างนี้ ถึง ๗ ขณะ ความสังวร หรือไม่สังวรอยู่ตอนนี้ จะเป็นกุศล อกุศล อยู่ตอนนี้
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ