จักขุวิญญาณ เป็นจิตประเภทอโสภณจิต อโสภณจิตไม่มีโสภณเจตสิกเกิดร่วมด้วย สติเป็นโสภณเจตสิก ดังนั้น ขณะที่จักขุวิญญาณเกิดขึ้น จึงไม่มีสติเกิดร่วมด้วยแต่ถ้าเป็นจักขุทวารวิถี ในช่วงชวนะ กุศลจิตที่เกิดทางจักขุทวาร มีสติเกิดร่วมด้วยครับ
จิตเห็น มีเจตสิกประกอบเพียง ๗ ประเภท คือ ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา เอกัคคตา ชีวิตินทริย์ มนสิการ
จักขุวิญญาณ เป็นอเหตุกจิต คือไม่มีเหตุเกิดร่วมด้วย สติเป็นเจตสิก เกิดร่วมกับจิตที่ดีงาม เช่น ขณะที่ฟังธรรมะ หรือขณะที่ให้ทาน ขณะที่เว้นไม่ฆ่าสัตว์ ขณะนั้นจึงจะมีสติเกิดร่วมด้วยค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
เรียนคุณ study ที่จักขุวิญญาณรู้อะไร ไม่รู้อะไร นามกับรูป อันไหนปรากฏกับจิตก่อนที่วิถีจิต มีอะไรไม่รู้บ้างไหม?
เรียนความเห็นที่ ๖ ครับ
Q : ที่จักขุวิญญาณรู้อะไร ไม่รู้อะไร
จักขุวิญญาณ หรือ จิตเห็น เห็นคือรู้แจ้งสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น ไม่รู้แจ้งสภาพธรรมอื่นๆ ฉะนั้น จิตเห็นจึงไม่รู้อื่น นอกจากรู้แจ้งสิ่งที่ปรากฏทางตา จิตเห็นเห็นสีสันวัณณะต่างๆ จิตเห็นไม่รู้เสียง ไม่รู้กลิ่น เป็นต้น
Q : นามกับรูป อันไหนปรากฏกับจิตก่อน
นามไหน หรือ รูปใด เกิดปรากฏ เมื่อความเข้าใจขั้นฟัง สั่งสมจนเพียงพอที่จะรู้ได้ ขณะนั้น สติสัมปชัญญะเกิดระลึก ปัญญาเข้าใจชัดนามนั้น หรือ รูปนั้นที่เกิดปรากฏโดยไม่คำนึงถึงก่อน - หลัง ไม่คำนึงว่า ขณะนี้เห็นก่อน หรือ ได้ยินก่อนไม่คำนึงว่า ขณะนี้มีร้อนก่อน หรือ มีเสียงก่อน แต่ขณะนี้ กำลังมีสิ่งใดก็ตามที่มีจริงที่เกิดปรากฏ ปัญญารู้ชัดในสิ่งนั้นตามความเป็นจริง ถ้าปัญญายังไม่ถึงขั้นที่จะรู้สิ่งที่เกิดปรากฏ จะไปรู้ว่าธรรมใดปรากฏก่อน ธรรมใดปรากฏหลัง นั้นไม่ใช่ฐานะครับ
Q : ที่วิถีจิต มีอะไรไม่รู้บ้างไหม? จิตทุกดวงเป็นสภาพรู้ ธาตุรู้ อาการรู้ เกิดขึ้นมาต้องรู้อารมณ์ แต่ไม่ใช่ทุกดวงจะเป็นวิถีจิตได้ครับ วิถีจิต ต้องเป็นจิตที่เกิดขึ้นรู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้นกาย หรือ ใจเท่านั้น แต่วิถีจิตจะเกิดขึ้นรู้อารมณ์ใดได้ ไม่รู้อารมณ์ใดได้ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ ขึ้นอยู่กับกำลัง ขึ้นอยู่กับประเภท ขึ้นอยู่กับกิจของจิตนั้นฯลฯ เช่น จิตเห็นเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น จิตเห็นรู้เสียงไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำกิจได้ยิน ไม่ได้อาศัยโสตทวารเป็นทาง แต่จิตเห็นอาศัยจักขุทวารเป็นทาง เป็นต้นครับ