ทางรู้อารมณ์ของจิตทางมโนทวาร เป็น คือภวังคุปัจเฉทจิต เป็นนาม ไม่อาจปิดได้ด้วยหลับตา อุดหูด้วยสำลี เอาผ้าปิดปาก ปิดจมูก สวมเสื้อผ้ามิดชิด แม้ไปเสียให้ไกลแสนไกล แม้ดื่มเหล้าให้เมามาย แม้กินยานอนหลับก็จักฝัน แม้ปล่อยให้เนินนานวันผ่านพ้นไป ก็นึกขึ้นได้ ฤาใครจักอาจปิดเสียได้ซึ่งหทัยวัตถุ เฉกเช่น ตา หู จมูก ลิ้นกาย ก็ใครเล่า ระงับเสียได้ ละเสียได้ ขจัดไปเสียได้ซึ่งอารมณ์ อันไม่ใช่เรา อันไม่มีนั้น
ขณะหลับ (จิตเป็นภวังค์) ไม่ต้องปิดอารมณ์ก็ไม่กระทบทั้ง ๖ ทวาร แม้ไม่หลับตา ไม่อุดหูด้วยสำลี ไม่เอาผ้าปิดปาก ไม่เอานิ้วบีบจมูก ไม่สวมเสื้อผ้ามิดชิด อารมณ์ที่ไม่กระทบปสาทเลยก็มี กุศล อกุศล ที่ไม่เกี่ยวเนื่องด้วยอารมณ์ ก็มีสภาพธรรมที่ไม่เป็นกุศล สภาพธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดที่ชวนวิถีจิต ดุจปิดกั้นระงับเสียได้ ละเสียได้ ขจัดไปเสียได้ซึ่งอารมณ์ ปัญญาตัดเสียซึ่งอวิชชา
ขอแก้ความเห็นของคุณลี้จินดาหน่อยนะครับ ขณะหลับสนิทแม้ทวารทั้งหกวิถีจิตไม่เกิดขึ้นก็จริง แต่อารมณ์ก็มีกระทบอยู่เสมอ เช่น ทางกายทวาร ยังไงก็มีอยู่เสมอ ส่วนกุศลจิต อกุศลจิตที่ไม่เกี่ยวเนื่องด้วยอารมณ์ไม่มี เพราะจิตทุกขณะต้องมีอารมณ์เสมอ ไม่มีอารมณ์จิตเกิดขึ้นไม่ได้ครับ อนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์แล้ว โลกียชวนวิถีจิตต้องเป็นกุศลหรืออกุศลเท่านั้น จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ครับ โปรดศึกษาโดยละเอียดและรอบคอบจะทำให้เข้าใจไม่ผิดจากสภาวธรรม
ผมขออนุโมทนาครับที่ คุณ study ขอแก้ความเห็น
โดยนัยที่ผมแสดงความคิดเห็น คืออารมณ์กระทบได้ที่ละขณะ อารมณ์ที่ไม่กระทบจึงมี จิตรู้อารมณ์ได้ทีละขณะ ทีละทวาร แม้ไม่หลับก็ไม่รู้อารมณ์ที่ดับไปก่อน ยิ่งขณะหลับยิ่งไม่รู้อารมณ์ที่กระทบมากกว่า
ขอตั้งประเด็นศึกษาต่อไป ดังนี้ กุศลจิต อกุศลจิต ทุกดวงที่สัมปยุตกับชวนวิถีจิตทางปัญจทวาร และทางมโนทวารเกี่ยวเนื่องกับอารมณ์ที่กระทบปสาทรูปหรือชวนวิถีจิตของอริยบุคคลไม่เป็นกุศล อกุศลหรือ อัพยากตธรรมไม่เกิดที่ชวนวิถีจิตหรือ
ที่นี่คือเวทีธรรมโปรดแสดงความคิดเห็น แสดงความเข้าใจออกมาอย่างสร้างสรรและขอให้บ้านธัมมะ ตรวจสอบความถูกต้อง โดยอ้างอิงหลักฐานจากพระไตรปิฎก เพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติต่อไป
ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่บ้านธัมมะตลอดไป
ขอตอบความเห็นที่ ๓ ครับ
ชวนวิถีจิตทางปัญจทวารและมโนทวาร เป็นไปตามการสะสมของจิต ชวนวิถีของพระอริยบุคคล ระดับพระเสกข เป็นกุศลหรืออกุศล (เว้นผลจิต) ชวนวิถีของพระอรหันต์ เป็นอัพยากตธรรม คือเป็นกิริยาและวิบากผลจิต
ขออนุโมทนาครับคุณ study ด้วยเหตุนี้แหละจึงปิดเสียได้ซึ่งหทัยวัตถุ จากอารมณ์
เป็นธรรม เป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนที่จะปิดหรือไม่ปิด ปิดไม่ได้เพราะเป็นธรรม เป็นอนัตตา
ยังไม่พึงจะกล่าวอย่างนั้นในขั้นนี้ ยังไม่ประจักษ์สภาพธรรมสักครั้ง
ก็คงจะไปไม่ถูก ถ้าไม่เชื่อว่าสิ่งต่างๆ มีจริง ถ้าไม่มีสภาพธรรมซึ่งปิดกั้นอารมณ์ ทานไม่มี ศีลไม่มี สมาธิไม่มี ปัญญาไม่มี ถ้าไม่มีอะไรที่ปิดกั้นได้ อารมณ์ที่เกิด ที่เกิดในที่ใกล้ไกลก็ปรากฎทั้งกายใจ แท้จริงปัญญาที่เจริญขึ้นจึงรู้ว่าไม่มีตัวตน เป็นธรรม เป็นอนัตตา