ที่พุทธคยา ... ขณะนั่งรอรถมารับ มีการพูดคุยธรรมะกันในระหว่างเพื่อนๆ และอาจารย์อรรณพถามเราว่า " ถามว่า วันนี้ดีกว่าเมื่อวานหรือเปล่า?"
คำตอบก็คือ " สำหรับเราแล้ว วันนี้แย่กว่าเมื่อวาน"
อ.อรรณพตอบว่า "วันนี้ ถ้าอกุศลสะสมเพิ่มขึ้น วันนี้ก็ต้องแย่กว่าเมื่อวาน แต่ถ้าศึกษาธรรม มีความเข้าใจธรรมะ วันนี้ก็ต้องดีกว่าเมื่อวาน เพราะมีการอบรมสั่งสมความเข้าใจ" (ถ้าไม่มีการฟังธรรม นับวันกิเลสจะต้องพอกพูนเพิ่มขึ้น)
อ.อรรณพ ก็ถามต่ออีกว่า " ถ้าให้ถึงพระนิพพานในชาตินี้ เอาไหม?"
โลภะ (ไม่ใช่เรานะ) ตอบเสียงดังว่า " เอาค่ะ"
แต่สหายธรรมอีกท่านหนึ่ง ตอบอย่างผู้ที่เข้าใจธรรมะว่า " พระนิพพาน ต้องถึงด้วยปัญญา ไม่ใช่ว่า ขอให้ถึงเมื่อไรก็ได้"
โลภะ และความเป็น "เรา" นี่เองเป็นเหตุให้ไม่รู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เพราะอยากได้ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อยากได้สิ่งที่เกินกำลังของปัญญาตน
ไม่ว่าจะเป็น เมื่อวาน ... วันนี้ ... หรือ แม้แต่ พรุ่งนี้ ก็รู้แล้วว่า ปัญญาของเรายังไม่เจริญขึ้นเลย จะป่วยกล่าวไปไยถึง พระนิพพาน (แม้ฝันก็ยังไม่เคย)
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาท่านผู้ร่วมสนทนาค่ะ
เมื่อวานคิดว่าเข้าใจแล้ว... แต่วันนี้เพิ่งรู้ว่า...ที่คิดว่าเข้าใจแล้ว...ยังไม่เข้าใจอะไรเลย
ขออนุโมทนาค่ะ
" ถ้าให้ถึงพระนิพพานในชาตินี้ เอาไหม?"
สำหรับผมไม่เอาครับ ไม่ใช่รู้ว่า โลภะมิใช่มรรค
แต่เพราะไม่ประจักษ์ว่า " นี้ทุกข์ "
ผมจึงยังเพลิดเพลินยินดีในทุกข์
เมื่อถึงเวลาดอกไม้ก็บานเอง ไม่ต้องเร่งปุ๋ยเร่งดอก
ทุกสิ่งหมุนเวียนไปตามฤดูกาล
ขออนุโมทนานะคะ :)
ปกติเรามักพูดว่า...วันนี้ดีกว่าเมื่อวานเพื่อเป็นกำลังใจ..ให้สู้ต่อไปแต่ในความเป็นจริงทุกๆ วัน..อกุศลมากกว่ากุศลและอกุศลวันนี้เป็นเหตุให้เกิดอกุศลในวันหน้า...จึงเหมือนเป็นไปไม่ได้ที่..วันนี้ที่ดีกว่าเมื่อวาน่..แต่ถ้าศึกษาธรรม มีความเข้าใจธรรมะ วันนี้ก็ต้องดีกว่าเมื่อวาน เพราะมีการอบรมสั่งสมความเข้าใจ" (ถ้าไม่มีการฟังธรรม นับวันกิเลสจะต้องพอกพูนเพิ่มขึ้น) ขออนุโมทนาคะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อวานผ่านไปแล้ว พรุ่งนี้ยังไม่มาถึง วันนี้กำลังดำเนินไปอยู่ ในแต่ละวันๆ ที่ดำเนินไปนั้น ไม่มีใครช่วยเราได้เลย นอกจากว่าตัวเราจะสะสมการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เป็นความเข้าใจถูกเห็นถูกของตัวเราเอง เพิ่มพูนความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ถึงแม้ว่าวันหนึ่งๆ นั้นจะเต็มไปด้วยกิเลสนานาประการ ทั้งความติดข้องยินดีพอใจ ความโกรธขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจ ซึ่งเป็นปกติของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ก็ตาม ดังนั้น สิ่งที่ควรมีเป็นอย่างยิ่งนั้น ก็คือ ความมั่นคง ที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาต่อไป เพื่อขัดเกลากิเลส เพื่อความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง ครับ ..
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ทุกครั้งที่ฟังธรรมะ หรืออ่านธรรมะ สนทนาธรรมะ เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้มีความเข้าใจ
ขึ้นอีก วันนี้ฟังไม่เข้าใจ ฟังซ้ำอีกก็ค่อยๆ เข้าใจขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้ดีกว่าเมื่อวานค่ะ
ปัญญา ไม่เหมือนดอกไม้ ดอกไม้บานเต็มที่แล้วก็โรยรา แต่ปัญญาเจริญ งอกงามขึ้นตามการสะสม แม้พรุ่งนี้จะยังไม่มาถึง แต่ถ้าตราบใดที่มีการฟัง การ อ่าน และการสนทนาธรรมตามกาล บ่อยๆ เนืองๆ เหมือนจับด้ามมีด พรุ่งนี้ของ พรุ่งนี้ๆ ๆ ปัญญาก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น ไม่มีโรยรา
อนุโมทนาในกุศลวิริยะของทุกท่าน
ขออนุโมทนาค่ะ
ไม่มีความแตกต่างของวัน แต่มีความต่างที่ปัญญา
ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
---------------------
ขอคัดลอกจาก K PANNIPA . V
จะป่วยกล่าวไปไยถึง พระนิพพาน (แม้ฝันก็ยังไม่เคย)
.................
ทุกวันนี้แม้จะได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมจาก
ท่าน อ สุจินต์
แต่วันๆ เมื่ออกุสลจิตเกิดก็หวั่นไหวไปกับอกุศลนั้นๆ
ถ้าเป็นโทสะ ก็จะคิดว่าโทสะไม่ใช่เรา
แต่ไม่ใช่ด้วยปัญญา
หากแต่เพราะความไม่ชอบในโทสะนั้นๆ
หรือหากโทสะกลุ้มรุมมากๆ
ก็หาตัวช่วย อันได้แก่โลภะ
เพื่อโทสะจะคลายลงแม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ยังดี
หรือหากเป็นความโลภเกิด
ก็ไหลไปกับโลภะนั้น เพราะโลภะเป็นธรรม
แทบจะไม่เคยเห็นโทษของโลภะเลย
ยังมีความสุขที่มีโลภะเป็นเพื่อน
และหากไม่ใช่ด้วยปัญญาที่มีกำลัง
ชีวิตต้องดำรงอยู่ไม่ได้แน่ๆ ถ้าขาดโลภะ
แม้จะต้องทุกข์เพราะสังสารวัฏฏ์ที่ยังจะต้องเป็นไป
แต่ก็เป็นทุกข์ของผู้ไม่มีปัญญา
แม้จะเบื่อเพราะยังต้องเกิด-ตาย
แต่ก็เป็นการเบื่อด้วยความเป็นตัวตน
ถ้าสามารถถึงพระนิพพาน ในชาตินี้
แค่คิดว่า ณ ขณะนี้จะอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีโลภะเป็นเพื่อน
ก็เป็นคำตอบได้ดี
ขออันตรายคือความเห็นผิดอย่าได้มี
และมีความมั่นคงในการศึกษาธรรม
อบรม สะสมไปเรื่อยๆ
ก็คงมีเพื่อนที่ไม่ใช่ชื่อโลภะ
แต่ชื่อปัญญาแทน
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ
เมื่อวาน ไม่รู้อะไรและไม่รู้ตัวด้วยว่าไม่รู้
วันนี้ บางครั้งคิดว่ารู้ ว่าเมื่อวานไม่รู้อะไรที่ไม่รู้ตัวว่าไม่รู้ นิดหน่อย แล้วก็ลืมอีก
พรุ่งนี้ ก็อาจจะเหมือนวันนี้ เป็นเมื่อวาน วันนี้ พรุ่งนี้ อีกครั้ง และอีกครั้ง และไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะไม่ลืมและรู้ทั่วถึงสิ่งที่ไม่รู้ทั้งหมดด้วยปัญญาความเข้าใจจริงๆ
(และแน่นอน (สำหรับดิฉัน) คงยังไม่ใช่วันนี้ พรุ่งนี้ หรือแม้แต่ ชาตินี้)
คงยังต้องมี เมื่อวาน วันนี้ และ พรุ่งนี้ ไปอีกนานแสนนานมากๆ ค่ะ
ขออนุโมทนาคุณ pannipa.v
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
เมื่อวานคิดว่าเข้าใจแล้ว...... แต่วันนี้เพิ่งรู้ว่า........ ที่คิดว่าเข้าใจแล้ว........
ยังไม่เข้าใจอะไรเลย
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 185 ท่านทั้งหลายจงริเริ่ม จงก้าวหน้า จงประกอบ (ความเพียร) ในพระพุทธศาสนา จงกำจัดเสนาแห่งมัจจุเหมือนช้าง กำจัดเรือนไม้อ้อฉะนั้น ผู้ใดจักไม่ประมาท ในพระธรรมวินัยนี้อยู่ ผู้นั้นจักละสงสารคือชาติ แล้วกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เมื่อวาน...ผ่านไปแล้วหมดแล้ว
ขณะนี้.......อะไรกำลังปรากฏ.?
...............ขออนุโมทนาค่ะ................
อนุโมทนาค่ะ.
ขอความสุข ความเจริญมั่นคงในกุศลธรรม จงมีแด่ท่านตลอดไป
ขออนุโมทนาครับ
เมื่อวาน มีสภาพธรรม ดับไปแล้ว
วันนี้ ขณะนี้มีสภาพธรรมแต่ไม่รู้ความจริง
ฟังต่อไป เป็นวันใหม่ที่ดี
ขออนุโมทนา