ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่...
อานิสงส์การให้ทาน ๕ ประการ [ทานานิสังสสูตร]
ผมขออนุโมทนา และชื่นชมทุกท่านมาก ว่ามีทานุปนิสัยอย่างสูงกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะคุณบรรยงค์ จงจิตรนันท์และคุณวีระยุทธ์ สันตยานนท์ ทั้ง ๒ ท่าน ที่ผมเรียกว่า "ผู้มีแต่ให้" และอีกหลายท่านมาก ที่ผมไม่กล้าออกนามท่าน การให้ประโยชน์ สุข ต่อผู้อื่น เป็นการดี ถ้าผู้ใดรู้อานิสงส์ของการให้ทานแล้ว จะไม่ยอมบริโภคอาหารก่อน ให้ทานได้เลย ทานจะมีผลมากหรือน้อย เพราะจิตผ่องใส มากหรือน้อยครับ ให้ทานตามกำลังสัทธา ไม่ใช่ให้ทานมากๆ แล้วเดือดร้อนภายหลัง การให้ทานควรมี เจตนาก่อนทำ กำลังทำ หลังทำ และหลังทำแล้ว นานๆ ที่มีโสมนัสเวทนา
ทาน สำคัญมาก เกี่ยวกับการขัดเกลากิเลส เช่นการสละวัตถุ สิ่งของ ถ้าผู้ใดยังไม่สามารถสละได้ จะสละกิเลสรุนแรงจนถึงขั้นการยึดถือว่า เป็นของเรา หรือว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ได้อย่างไร การให้ทาน ให้วัตถุสิ่งของ เพื่อประโยชน์สุขต่อผู้อื่น เป็นการขัดเกลากิเลสที่ไม่รุนแรง เพื่อการอบรมเพื่อสละความเป็นต้วตน เป็นเรา ได้ในภายหน้า และนอกจากได้รับผลของทานเป็นความสุข ความเจริญ มีชื่อเสียงแล้ว จะเกิดความอิ่มใจ ปิติ ในกุศลที่ได้ทำไปแล้ว และจะเป็น ทานุปนิสสัย มาก ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อานิสงส์ที่น่าปลื้มใจมาก คือบังเกิดในสวรรค์ และอานิสงส์ที่ประเสริฐที่สุดคือ ปรินิพพาน ครับ
ในพระไตรปิฏก แสดงไว้ว่า พระพุทธเจ้าและสาวก ถ้าจะโปรด ก็โปรดบุคคลผู้มีศรัทธาก่อน คือท่านรู้ว่าบุคคลนี้จะให้ทานเมื่อได้พบพระภิกษุ เพราะฉะนั้น เราควรสะสมการให้ทาน การรักษาศีล และการฟังธรรมเนืองๆ เพื่อเป็นอุปนิสัยในอนาคตค่ะ
อนุโมทนาคะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ