พระสูตรหนึ่งเรื่องสัมพหุลภิกขุ กล่าวถึงพระภิกษุ ๕๐๐ รูป ได้สนทนากันว่า อะไรหนอเป็นสุขในโลก ต้องมีสภาพธรรมที่พระภิกษุกล่าวสนทนากันว่า เหตุของความสุขซึ่งมุ่งไปที่สุขกาย สุขใจ สภาพธรรม คือเวทนาเจตสิก เวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา สุขของปุถุชนเป็นทุกข์ของพระอริยะ เพราะสุขนั้นเป็นทุกข์ แปรปรวน พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ความสุขที่แปรเปลี่ยนนั้นเป็นทุกข์ สำหรับสุขที่แท้จริงนั้นเป็นสุขและเที่ยง ไม่แปรเปลี่ยน และพ้นจากนามรูป นั่นคือ พระนิพพาน
ทรงแสดงเหตุนำมาซึ่งสุขอย่างแท้จริง การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นเหตุนำสุขมาให้ การแสดงธรรมของสัปบุรุษเป็นเหตุนำสุขมาให้ เป็นต้น ซึ่งสาระสำคัญของพระสูตรนั้นทรงแสดงเหตุที่นำความสุขมาให้อย่างแท้จริง ทรงแสดงพระธรรมไม่ว่าจะเป็นพระสูตร พระอภิธรรม พระวินัย ก็ทรงมุ่งให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงที่มีขณะนี้ ให้พ้นจากความไม่รู้ เพราะไม่รู้ตามความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ เป็นเหตุนำมาซึ่งอกุศลทั้งหลาย ขณะเข้าใจธรรมตามความเป็นจริงย่อมปลาบปลื้มผ่องใส ขณะเข้าใจก็พ้นจากทุกข์ ละความไม่รู้ ละตัณหา พ้นจากความทุกข์ได้เมื่อปัญญาเจริญขึ้น
การฟังธรรมเท่านั้นที่จะทำให้พ้นจากความไม่รู้ พ้นจากการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา และยังพ้นจากกิเลส ถ้าไม่ฟังธรรมก็ไม่สามารถพ้นจากกิเลสได้เลย และก็ไม่สามารถพบกับความสุขที่แท้จริงได้
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตา และทุกๆ ท่านครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ