สิ่งที่เกิดดับ เกิดดับ ต่อเนื่องกันอย่างรวดเร็วมากๆ จนหารอยต่อไม่เจอ (เหมือนการสร้างภาพการ์ตูนซ้อนๆ กันมากมาย จนเห็นเป็นเรื่องราวต่างๆ ) ตามที่ท่านอาจารย์สุจินต์ เคยพูดอยู่เสมอๆ นั้นคืออะไร? แล้วมีใครบ้างที่จะได้ประจักษ์ต่อสภาพธรรมนี้
ขอความกรุณาให้ผู้ทีมีความรู้ ให้ความกระจ่างตรงนี้ด้วยค่ะ
ขอบพระคุณอย่างสูง และขออนุโมทนาบุญค่ะ
ผู้ใหม่
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จิตเห็น เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา เท่านั้น ไม่เห็นเป็นสิ่งอื่นๆ ไม่เห็นเป็นวงกลม ไม่เห็นเป็นส้มโอ แต่หลังจากเห็นแล้ว ก็คิดนึกเป็น รูปร่าง สัณฐาน นึกคิดด้วยใจว่า เป็นสิ่งนั้น สิ่งนี้ เพราะฉะนั้น ก็เป็นเพียงการคิดนึกเท่านั้น เพราะฉะนั้น ที่เราเห็นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพราะคิด แต่สิ่งที่เห็นแล้วจริงๆ คือสี ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดครับ ผู้มีปัญญา เจริญถึงวิปัสสนาญาน ย่อมประจักษ์ตาม ครับ
[เล่มที่ 65] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๑- หน้า 109
บุคคลย่อมเห็นสิ่งใด สิ่งนั้นชื่อว่าเห็นแล้วก็หาไม่ สิ่งใดอันเขาเห็นแล้ว บุคคลชื่อว่าย่อมไม่เห็นสิ่งนั้น เมื่อไม่เห็นอยู่ ย่อมติด เมื่อติดก็หลงอยู่ ย่อมพ้นไปไม่ได้.
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ต้องมีความเข้าใจจริงๆ ว่า เห็น มีจริงๆ และสิ่งที่ถูกเห็น ก็มีจริงๆ ในขณะที่เห็นเกิดขึ้น จะไปเห็นสิ่งอื่นไม่ได้นอกจากสิ่งที่ปรากฏทางตาคือ สี เท่านั้น แต่ที่รู้ว่ามีคนนั้นคนนี้ เป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ นั่นเป็นคิด ไม่ใช่เห็น เห็นกับคิด ไม่ใช่ขณะเดียวกัน แสดงถึงความเป็นจริงของธรรม คือ จิตที่เกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็วและไม่ขาดสายด้วย คิดมีจริงแต่เรื่องที่คิดไม่มีจริง ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
สาธุค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ