พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ 435
๑๑. ชาณุสโสณีสูตร
ว่าด้วยการอุทิศทานให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว
[๑๖๖] ครั้นนั้นแล ชาณุสโสณีพราหมณ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับได้ปราศัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการปราศัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่งณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ท่านโคดมผู้เจริญพวกข้าพเจ้าได้นามว่าเป็น พราหมณ์ ย่อมให้ทาน ย่อมทำความเชื่อว่า ทานนี้ต้องสำเร็จแก่ญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้ว ขอญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วจงบริโภคทานนี้ ท่านโคดมผู้เจริญ ทานนั้นย่อมสำเร็จแก่ญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วหรือ ญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วเหล่านั้น ย่อมได้บริโภคทานนั้นหรือ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ ทานนั้นย่อมสำเร็จในฐานะแล ย่อมไม่สำเร็จในอฐานะ
ชา. ท่านโคดมผู้เจริญ ฐานะเป็นไฉน อฐานะเป็นไฉน.
พ. ดูก่อนพราหมณ์บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มีความอยากได้ของผู้อื่น มีจิตปองร้าย มีความเห็นผิด บุคคลนั้นเมื่อตายไปย่อมเข้าถึงนรก เขาย่อมเลี้ยงอัตภาพอยู่ในนรกนั้น ด้วยอาหารของสัตว์นรก ดูก่อนพราหมณ์ ฐานะอันเป็นที่ไม่เข้าไปสำเร็จแห่งทานแก่สัตว์ผู้ตั้งอยู่นี้แล เป็นอฐานะ.
การให้ทาน ไม่สามารถทำให้บุคคลผู้เกิดเป็นสัตว์ในนรกอนุโมทนาในทานนั้นได้ครับ
ดูก่อนพราหมณ์ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นคนฆ่าสัตว์ ฯลฯ มีความเห็นผิดบุคคลนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานนั้น ย่อมตั้งอยู่ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานนั้น ด้วยอาหารของสัตว์ผู้เกิดในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน
ดูก่อนพราหมณ์ แม้ฐานะอันเป็นที่ไม่เข้าไปสำเร็จแห่งทานแก่สัตว์ผู้ตั้งอยู่นี้แล ก็เป็นอฐานะ.
การให้ทานไม่เป็นผลให้บุคคลผู้เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานอนุโมทนาในทานกุศลนั้นได้ครับ
ดูก่อนพราหมณ์ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ จากการลักทรัพย์ จากการประพฤติผิดในกาม จากการพูดเท็จ จากการพูดส่อเสียด จากการพูดคำหยาบ จากการพูดเพ้อเจ้อ ไม่มีความอยากได้ของผู้อื่น มีจิตไม่ปองร้าย มีความเห็นชอบ บุคคลนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกมนุษย์ เขาย่อมเลี้ยงอัตภาพในมนุษย์โลกนั้น ย่อมตั้งอยู่ในมนุษย์นั้นด้วยอาหารของมนุษย์ ดูก่อนพราหมณ์ แม้ฐานะอันเป็นที่ไม่เข้าไปสำเร็จแห่งทานแก่สัตว์ผู้ตั้งอยู่นี้แลก็เป็นอฐานะ.
ถึงแม้ว่าบุพการีผู้ล่วงลับไป จะเกิดเป็นมนุษย์ด้วยอำนาจแห่งกุศลวิบาก ก็ไม่อาจล่วงรู้เพื่อจะอนุโมทนาในทานกุศลที่ญาติในโลกนี้อุทิศไปให้ได้ครับ
ดูก่อนพราหมณ์ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ ฯลฯ มีความเห็นชอบ บุคคลนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดา เขาย่อมเลี้ยงอัตภาพอยู่ในเทวโลกนั้น ย่อมตั้งอยู่ในเทวโลกนั้น ด้วยอาหารของเทวดา
ดูก่อนพราหมณ์ แม้ฐานะเป็นที่ไม่เข้าไปสำเร็จแห่งทานแก่สัตว์ผู้ตั้งอยู่นี้แล ก็เป็นอฐานะ.
หากเป็นกุศลวิบากที่มีผลมาก บุพการีผู้ล่วงลับก็อาจจะเกิดเป็นเทวดา แต่เทวดามีอาหารที่ประณีตกว่ามาก การให้ทานของญาติในโลกนี้ด้วยอาหารบนโลกมนุษย์จึงเป็นทานที่ไม่ถึงความสำเร็จของทานนั้นครับ
ดูก่อนพราหมณ์ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ฯลฯ มีความเห็นผิดบุคคลนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงเปรตวิสัย เขาย่อมเลี้ยงอัตภาพอยู่ในเปรตวิสัย ด้วยอาหารของสัตว์ผู้เกิดในเปรตวิสัย หรือว่ามิตร อำมาตย์ หรือญาติสาโลหิตของเขา ย่อมเพิ่มให้ซึ่งปัตติทานมัยจากมนุษยโลกนี้ เขาเลี้ยงอัตภาพอยู่ในเปรตวิสัยนั้น ย่อมตั้งอยู่ในเปรตวิสัยนั้น ด้วยปัตติทานมัยนั้น ดูก่อนพราหมณ์ฐานะอันเป็นที่เข้าไปสำเร็จแห่งทานแก่สัตว์ผู้ตั้งอยู่นี้แล เป็นฐานะ.
หากบุพการีผู้ล่วงลับเกิดในปิตติวัสัย ทานที่ญาติในโลกนี้ทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศล (ปัตติทานมัย) ไปให้ เมื่อเปรตตนนั้นล่วงรู้ ก็สามารถที่จะอนุโมทนาในกุศลจิต (ปัตตานุโมทนามัย) จึงเป็นทานที่สำเร็จผลทั้งผู้ให้และผู้รับ ครับ
ชา. ท่านโคดมผู้เจริญ ก็ถ้าญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วนั้น ไม่เข้า ถึงฐานะนั้น ใครเล่าจะบริโภคทานนั้น.
พ. ดูก่อนพราหมณ์ ญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้ว แม้เหล่าอื่นของทายกนั้นที่เข้าถึงฐานะนั้นมีอยู่ ญาติสาโลหิตเหล่านั้นย่อมบริโภคทานนั้น.
นอกจากบุพการีผู้ล่วงลับ ญาติผู้ล่วงลับมากมายที่เคยเกี่ยวดองกับเรา ในสังสารวัฏฏ์อันยาวนาน ย่อมได้รับผลแห่งทานนั้นครับ
ซึ่งยังมีต่ออีกค่อนข้างยาวครับ แต่โดยสรุปดังนี้ครับ
ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีแล้ว ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้อที่แม้ทายกก็เป็นผู้ไม่ไร้ผลนี้ เป็นของควรเพื่อให้ทานโดยแท้เป็นของควรเพื่อกระทำศรัทธาโดยแท้.
พ. ดูก่อนพราหมณ์ ข้อนี้เป็นอย่างนี้ๆ ดูก่อนพราหมณ์ แม้ทายกก็เป็นผู้ไม่ไร้ผล.
ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ฯลฯ ขอพระโคดมผู้เจริญโปรดทรงจำข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้
เป็นต้นไป
ทานที่ให้ไปแล้วไม่ไร้ผลแม้ผลของทานจะไม่สำเร็จถึงผู้รับ แต่เมื่อกุศลกรรมได้กระทำสำเร็จ ก็จะติดตามไปให้ผลแก่ผู้ที่ให้ทานนั้นในภายภาคหน้าได้ ไม่ว่าจะเกิดในภพใดก็ตาม
สาธุ สาธุ สาธุ ธรรมพุทธวจน ครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ