ฝึกปฏิบัติ อย่างไร จึงจะได้ เข้าใจในธรรมและ เป็น พระอริยบุคคล อันประเสริฐ ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คำว่า ปฏิบัติ ที่ใช้กันในภาษาไทย กับปฏิบัติในภาษาบาลี ความหมายไม่ตรงกัน กล่าวคือ โดยมากจะเข้าใจว่าเป็นการไปทำ แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่การไปทำ เพราะเหตุว่า ปฏิบัติธรรมไม่ใช่การไปทำปฏิบัติ ไม่ใช่การไปทำอะไรที่ผิดปกติขึ้นมา แต่ธรรมเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ของธรรม นั่นก็คือ สติ และ สัมปชัญญะ (ปัญญา) เกิดขึ้นระลึกรู้ ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง ซึ่งจะต้องอาศัยการฟัง การศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจในเรื่องของสภาพธรรมไปตามลำดับ เพราะเหตุว่า ถ้าไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว การปฏิบัติถูกต้องย่อมมีไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นความเข้าใจถูก เห็นถูก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ปฏิบัติธรรม คือ การถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ขณะใดที่สภาพธรรมปรากฏให้รู้ สติเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรม ขณะนั้นก็ถึงเฉพาะที่ลักษณะของสภาพธรรมว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา จึงเป็นความหมายที่ถูกต้องของการปฏิบัติธรรม คือการถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เพราะสติและปัญญาที่เกิดรู้ตามความเป็นจริง
ซึ่งการจะถึงการบรรลุธรรม ก็ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมปัญญาอย่างยาวนานครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นเรื่องที่ไกลมากกับการบรรลุธรรม ถ้าไม่ตั้งต้นถูก ไม่มีทางถึง มีแต่จะเพิ่มพูนความเห็นผิด ความติดข้องและความไม่รู้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น สำคัญที่การตั้งต้น ด้วยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ประมาทในแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น เป็นไปเพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ซึ่งผู้ที่จะได้ฟังได้ศึกษาและได้รับประโยชน์จากพระธรรมนั้น ต้องเป็นผู้ได้เห็นประโยชน์ของพระธรรม สะสมศรัทธาที่จะฟังพระธรรมมาแล้วอย่างนับชาติไม่ถ้วน จึงทำให้ผู้นั้นสนใจที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาต่อไป เหมือนอย่างพระอริยบุคคลทั้งหลายในอดีต ก่อนที่จะได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมนั้น ท่านได้สะสมปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งขาดไม่ได้เลย ก็คือ ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เมื่อได้ศึกษาพระธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนาแล้วจะเข้าใจว่า ทุกคำที่พระองค์ตรัส เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกจริงๆ ก็คือ เพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏตามความเป็นจริง เพราะสิ่งที่มีจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้วโดยละเอียด โดยประการทั้งปวง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
สาธุๆ ๆ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตครับ....
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ปัญญาเกิดจากการฟัง ถ้าฟังธรรมเข้าใจอยู่ที่ไหนก็มีธรรมะ เช่นขณะนี้มีเห็น มีได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
'ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ปฏิบัติธรรม คือ การถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ขณะใดที่สภาพธรรมปรากฏให้รู้ สติเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรม ขณะนั้นก็ถึงเฉพาะที่ลักษณะของสภาพธรรมว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา จึงเป็นความหมายที่ถูกต้องของการปฏิบัติธรรม คือการถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เพราะสติและปัญญาที่เกิดรู้ตามความเป็นจริง'
ขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบ ขอบพระคุณ & อนุโมทนาค่ะ