การที่จะรู้ว่าไม่มีเรา เหมือนดังพระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านไม่มีความเห็นผิดในสภาพธรรมว่าเป็นเราอีกต่อไป สำหรับเราก็ต้องเริ่มต้นจากการฟังพระธรรมให้เข้าใจในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ว่าเป็นแต่เพียงนามธรรม และรูปธรรม ที่ปรากฏแต่ละทาง ไม่ใช่เพียงพูดหรือคิดตามเท่านั้นว่า เห็นเป็นนามธรรม สิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นรูปธรรม แต่ต้องเข้าใจตัวจริงของจิตเห็นจริงๆ ซึ่งเป็นนามธรรม เป็นธาตุรู้ เป็นใหญ่ในการรู้แจ้งอารมณ์ ถ้าจิตเห็นไม่เกิดขึ้นเห็น สิ่งที่ปรากฏทางตาก็ไม่สามารถปรากฏได้เลย ผู้ที่ฟังด้วยความเข้าใจขึ้นๆ เมื่อมีความเข้าใจถูกในลักษณะสภาพธรรมมั่นคงจริงๆ สังขารขันธ์ทั้งหลายก็จะทำหน้าที่ปรุงแต่งให้สติระลึกรู้ลักษณะนามธรรมและรูปธรรม
ตามความเป็นจริง...ทีละเล็กทีละน้อย...จนกว่าจะไม่มีเรา...
...กว่าที่จะไม่มีเรา...จิรกาลภาวนาค่ะ
...ขออนุโมทนาค่ะ...
ขอขอบคุณ...คุณเมตตาและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
"...ไม่ ใช่เพียงพูดหรือคิดตามเท่านั้น..."
"...เมื่อมีความเข้าใจถูกในลักษณะสภาพธรรมมั่นคงจริงๆ สังขารขันธ์ทั้งหลายก็จะทำหน้าที่ปรุงแต่งให้สติระลึกรู้ลักษณะนามธรรมและรูปธรรม ตามความเป็นจริง...ทีละเล็กทีละน้อย........จิรกาลภาวนาค่ะ..."
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาด้วยครับ
จนกว่าสังขารขันธ์จะปรุงแต่ง ทีละเล็กละน้อยๆ
อนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ธรรมนำทางให้ตัวเรา ส่องแสงสว่างให้จิตใจ รู้จักและใช้ได้ถูกกาล
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรม เป็นธรรม ไม่ใช่เรา แต่เพราะความเข้าใจยังไม่มั่นคงพอ จึงยึดถือว่า มีเรา เป็นตัวเรา จึงต้องศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจไปตามลำดับ เพื่อความเข้าใจจริงๆ ว่า ธรรมเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่มีเราในธรรมแต่ละอย่างๆ ครับ
...ขอบพระคุณพี่เมตตา และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ