ควรละความอาฆาตในบุคคลต่างๆ เพราะว่าบุคคลที่ท่านพบปะคุ้นเคยนั้น ย่อมมีอุปนิสัยต่างๆ กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่บังคับบัญชาไม่ได้ หรือว่าจะไปเปลี่ยนจิตใจของบุคคลอื่นก็เป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อท่านได้ประสบกับเหตุการณ์อย่างนี้ ก็ควรที่จะได้ระลึกถึงพระธรรมที่ได้ทรงแสดงไว้
มีใครบ้างไหมที่จะดีพร้อมทุกอย่าง
พระธรรมที่ทรงแสดงทั้งหมด เพื่อเกื้อกูลผู้ฟังให้ประพฤติปฏิบัติตาม และก็เป็นประโยชน์แก่ผู้ไม่อาฆาต เป็นประโยชน์แก่ผู้ไม่ผูกโกรธเอง
เรื่องของความโกรธ เป็นเรื่องของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ซึ่งควรที่จะได้พิจารณาสภาพจิตใจของท่านเอง ถ้าท่านเกิดอาฆาตหรือผูกโกรธในบุคคลใด ก็ควรที่จะพิจารณาบุคคลที่ท่านโกรธ หรือที่ท่านผูกอาฆาตว่า เป็นบุคคลประเภทใด ท่านควรหรือไม่ที่จะเกิดอกุศลจิต และจะมนสิการอย่างไร เพื่อที่จะให้จิตไม่เป็นอกุศล
อาฆาตวินยสูตรที่ ๒ นี้ประมวลย่อลงมา คือ ไม่ใส่ใจถึงความไม่ดีของบุคคลอื่น และพยายามระลึกถึงความดีของบุคคลอื่นที่มี แต่ถ้าบุคคลนั้นไม่มีเลยทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งใจไม่บริสุทธิ์ ก็ควรจะเกิดความเอ็นดู ความอนุเคราะห์ ความกรุณา ใคร่ที่จะให้บุคคลนั้นละกายทุจริต อบรมกายสุจริต ละวจีทุจริต อบรมวจีสุจริต ละมโนทุจริต อบรมมโนสุจริต เพื่อว่าเมื่อเขาตายไป จะได้ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก อย่าเกิดอกุศลจิตที่อยากจะให้เขาไปสู่นรก
ที่มา อ่าน และฟังเพิ่มเติม ...
อาฆาตวินยสูตรที่ ๒
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ