สมโลภะ
โดย ใหญ่ราชบุรี  4 ส.ค. 2558
หัวข้อหมายเลข 26880

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

สมโลภะคืออะไร ยกตัวอย่างด้วยค่ะ เกิดจากเหตุใด เป็นอกุศล และมีโทษอย่างไร

ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้ความรู้ความเข้าใจค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 4 ส.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สมโลภะ โลภะที่เป็นปกติ วิสมโลภะ โลภะที่ไม่เป็นปกติ

ขอเชิญอ่านคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ได้ดังนี้ ครับ

ผู้ถาม อยากให้อาจารย์ช่วยให้ตัวอย่างสมโลภะกับวิสมโลภะในชีวิตประจำวัน

สุ. โลภะในชีวิตประจำวัน ไม่ได้มีการที่จะเพ่งเล็งจนกระทั่งกระทำทุจริตกรรม ไม่ได้เป็นอันตรายกับใคร เพราะเหตุว่าเป็นชีวิตประจำวันของทุกชีวิต เช่น ตื่นขึ้นมาได้ยินเสียง หรือการดำเนินชีวิตในประจำวัน ขณะนั้นเป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิต นี่ต้องรู้ก่อน ต้องเป็นผู้ที่ตรง คงจะไม่มีใครบอกว่าเป็นกุศลจิตในขณะที่เดินไปอาบน้ำ แต่งตัวรับประทานอาหาร เพราะว่าขณะนั้นก็เป็นความต้องการหรือความติดข้อง ก็เป็นโลภะที่เป็นสมโลภะ เป็นธรรมดา เป็นปกติ แต่ถ้ามีกำลังขึ้น เราก็จะรู้ว่าเริ่มมีอาการผิดปกติ ก็จะมีการต้องการสิ่งซึ่งอาจจะกระทำไปด้วยความทุจริตทางกาย ทางวาจาก็ได้ ขณะนั้นก็จะเห็นความต่างของโลภะซึ่งเป็นปกติกับโลภะที่ไม่ใช่ปกติ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 4 ส.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

โลภะ คือ ความติดข้อง ความต้องการ ความทะยานอยาก ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ทุกคนมีในขณะนี้, โลภะ มีหลายระดับขั้น กล่าวคือ มีทั้งโลภะที่เกิดขึ้นเป็นปกติในชีวิตประจำวัน (สมโลภะ) และ โลภะที่มีกำลังมาก หรือ โลภะเกินประมาณ (วิสมโลภะ)

โลภะที่เกิดขึ้นเป็นปกติในชีวิตประจำวัน เช่น รับประทานอาหาร อาบน้ำ แต่งตัวการไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติในชีวิตประจำวัน เป็นโลภะประเภทที่ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เสียหาย หรือเสียประโยชน์แต่อย่างใด ซึ่งคนส่วนใหญ่แล้วไม่ทราบเลยว่าเป็นโลภะ แต่จริงๆ เป็นโลภะ เพราะเหตุว่าโดยสภาพของโลภะ ก็คือ โลภะ ไม่ว่าจะน้อยหรือมากก็ตาม ถ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงแสดงความจริงนี้ เราจะไม่ทราบเลยว่าแท้จริงแล้วจิตของเราเป็นไปกับโลภะเกือบจะตลอดเวลา

สำหรับโลภะที่มีกำลังมาก หรือ โลภะเกินประมาณ เช่น อยากได้อะไรในสิ่งที่ตนเองต้องการ ถ้าสิ่งนั้นเกินกำลังของตนที่จะได้มาด้วยวิธีที่สุจริต บุคคลที่โลภะมีกำลังมากก็จะคิดหาวิธีเพื่อให้ได้มาด้วยวิธีทุจริต ซึ่งเป็นเหตุให้ทำทุจริตทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ เป็นไปเพื่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น และตนเองก็จะต้องได้รับความเดือดร้อนในภายหลังด้วย ไม่ช้าก็เร็ว โดยการได้รับผลของอกุศลกรรมที่ตนเองก่อขึ้นอันมีโลภะเป็นเหตุ ซึ่งไม่มีใครทำให้เลย นอกจากกรรมของตนเองเท่านั้น ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย tanrat  วันที่ 5 ส.ค. 2558

โลภะมีสองอย่าง คือสะมะโลภะ และวิสะมะโลภะ

กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย j.jim  วันที่ 7 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย peem  วันที่ 8 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย ms.pimpaka  วันที่ 8 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย chatchai.k  วันที่ 23 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย ก.ไก่  วันที่ 18 พ.ค. 2565

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ


ความคิดเห็น 9    โดย สิริพรรณ  วันที่ 17 ก.ค. 2565

กราบขอบพระคุณ ยินดีในกุศลทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย talaykwang  วันที่ 30 เม.ย. 2566

กราบขอบพระคุณและยินดีในกุศลยิ่งค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย Jarunee.A  วันที่ 17 ก.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย เฉลิมพร  วันที่ 22 ก.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ