โดยส่วนตัวเข้าใจขั้นฟังแล้วว่าคน สัตว์ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นไม่มีจริง.สิ่งที่มีจริง.คือธรรมะเท่านั้น.แต่ผมอยากทราบว่าการอธิบายให้คนทีไม่เคยฟังธรรมะเลย.ให้เขาได้เข้าใจขั้นฟังว่าคน สัตว์หรือสิ่งใดที่เขาเข้าใจผิดอยู่.พอจะมึวิธีหรือคำถามในการสนทนากับเขาอย่างไรบ้าง.ให้เขาได้คิดแยกแยะระหว่างจริงกับไม่จริง.ขอความชี้แนะด้วยครับ.กราบขอบพระคุณ.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรม เป็นสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง แสดงถึงความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริงๆ แต่ละหนึ่งๆ สิ่งที่มีจริง มีลักษณะที่ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น มี ๔ ประเภท ซึ่งเรียกว่า ปรมัตถธรรม ๔ ได้แก่
จิต สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์
เจตสิก สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต ตามความแก่จิตประเภทนั้นๆ ดับพร้อม กับจิตและรู้อารมณ์เดียวกันกับจิต ด้วย
รูป สภาพธรรมที่ไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ใช่ธาตุรู้ แต่มีจริงๆ
พระนิพพาน เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นสภาพธรรมที่ดับทุกข์ดับกิเลส เป็นสภาพธรรมทีไม่เกิดไม่ดับ พระนิพพาน มีลักษณ์ที่สงบจากกิเลส เป็นสภาพ ธรรมที่ตรงกันข้ามกับสภาพธรรมที่เกิดดับอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่มีจริง ไม่พ้นจากปรมัตถธรรม ๔ อย่างนี้เลย จึงคัญอยู่ที่ความเข้าใจ ถ้ากล่าวถึงคน สัตว์ หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็ต้องพิจารณาว่าคน สัตว์ สิ่งหนึ่งสิ่งใด นั้น เป็นเพียงบัญญัติเรื่องราวจากความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม เพราะเหตุว่าถ้าไม่มีความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม ก็จะไม่มีอะไรๆ เลย แม้แต่คนหรือสัตว์ ทำไมจึงเป็นคน เป็นสัตว์ ก็เพราะมีความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมกล่าวคือนามธรรมกับรูปธรรมนั่นเอง ในเมื่อเป็นเพียงนามธรรมกับรูปธรรม แล้วจะเป็นคนเป็นสัตว์ได้อย่างไร หรือถ้าเป็นวัตถุสิ่งหนึ่งสิ่งใด เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น ก็เพราะมีความเกิดขึ้นเป็นไปของรูปทั้งหลายนั่นเอง ถ้าแตะหรือจับก็เป็นเพียงอ่อนแข็ง ถ้าเห็นก็เห็นเพียงสีหรือสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น แล้วจะเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้อย่างไร เพราะเหตุว่าเป็นเพียงธรรมแต่ละหนึ่งๆ เท่านั้น ครับ
... ยินดีในกุศลของคุณ Kuat639 และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...
ยินดีในกุศลจิตครับ