เวลามาฟังธรรม แล้วตั้งใจฟังสิ่งที่ได้ฟังจริงหรือเปล่า? ฟังเรื่องวิปลาส ใส่ใจเรื่องวิปลาสหรือเปล่า? มัวไปคิดเรื่องอื่นหรือเปล่า? โลภพาไป สหายของความไม่รู้คือ โลภะ พากันไปไหน? พาไปสู่การสะสมความไม่รู้ และความติดข้องมากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าไม่สนใจสิ่งที่กำลังฟังจะมีประโยชน์ไหม? เพราะขณะ โลภะเกิด โมหะ ก็เกิดด้วย แต่ฟังให้เข้าใจสิ่งที่กำลังฟัง เป็น ปัญญา พาให้รู้แน่นอน
สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏเป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง ไม่ใช่ไปรู้สิ่งที่ไม่ได้ปรากฏ ไปคิดเรื่องอื่นที่ไม่ได้ปรากฏ โลภะพาไปอีกแล้ว พาให้เฉออกไปจากสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ความเข้าใจถูก เห็นถูกในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏนั้นป็น ปัญญา เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นมรรคองค์แรกของ อริยมรรคมีองค์ ๘ ต้องเริ่มด้วยความเห็นถูกเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏก่อนจึงจะเป็นหนทาง พาไปไหน? พาไปถึงการประจักษ์แจ้งสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากนามธรรม และรูปธรรม ท่านอาจารย์กล่าวไว้ว่า .. สัมมามรรคพาไปไหน พาไปถึงนิพพาน
ปัญญาความเห็นถูก เข้าใจถูกเท่านั้น ที่จะเป็นทางพาไปสู่ การประจักษ์แจ้งความจริง พาไปถึงนิพพาน ส่วนโลภะ และความไม่รู้ ก็จะพาไปสู่ความมึดมนต่อไป
ขอกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ
ขออนุโมทนา ค่ะ
อ่านแล้วโดนมากค่ะพี่เมตตา เพราะถูก "พาไป" ตลอด ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย รวมทั้งใจที่คิดนึก ขนาดหลับยังถูก "พาไป" ในฝันเลยค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"พากันไปไหน พาไปสู่การสะสมความไม่รู้ และความติดข้องมากขึ้น"
ปัญญาความเห็นถูก เข้าใจถูกเท่านั้น ที่จะเป็นทางพาไปสู่ การประจักษ์แจ้ง ความจริง พาไปถึงนิพพาน
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาพี่เมตตาและทุกๆ ท่านครับ
ถูกพาไป เพราะเราไม่รู้ จึงถูก อายตนะทั้ง ๖ และขันธ์ ๕ พาไป หาใช่มีตัวตนแท้ สาธุ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"... สัมมาทิฏฐิ เป็นมรรคองค์แรกของ อริยมรรคมีองค์ ๘ ต้องเริ่มด้วยความเห็นถูกเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏก่อนจึงจะเป็นหนทาง พาไปไหน? พาไปถึงการประจักษ์แจ้งสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากนามธรรม และรูปธรรม ..."
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา และ ทุกๆ ท่านด้วยครับ...
จะพาไปไหน ... สิ่งดีๆ ๆ หรือที่ดีๆ ได้ ... เริ่มที่สัมมาทิฏฐิ ...
[เล่มที่ 22] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 342
[๒๕๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาทิฏฐิเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวสัมมาทิฏฐิไว้ ๒ อย่าง คือ สัมมาทิฏฐิที่ยังเป็นสาสวะเป็นส่วนแห่งบุญให้ผลแก่ขันธ์อย่าง ๑ สัมมาทิฏฐิที่เป็นอริยะ ที่เป็นอนาสวะเป็นโลกุตระเป็นองค์มรรคอย่าง ๑
สัมมาทิฏฐิที่เป็นสาสวะ ๑๐ [มหาจัตตารีสกสูตร]
สัมมาทิฏฐิที่เป็นอนาสวะ [มหาจัตตารีสกสูตร]
".. สิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏ เป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง ไม่ใช่ไปรู้สิ่งที่ไม่ได้ปรากฏ ไปคิดเรื่องอื่นที่ไม่ได้ปรากฏ ..."
ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตาด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เพราะเห็นแล้วก็คิดนึกเลย พาไป เป็นเราอยู่นี่แหละเห็นก็ให้รู้ว่าเห็นในสิ่งที่ปรากฏ ทางตา เห็น ไม่ใช่ คิด ระลึกรู้บ่อยๆ ก็จะเห็นถูกเข้าใจถูกขึ้นค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ