ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประมวลสาระสำคัญ
จากการสนทนาธรรม
ที่บ้านธัมมะ ลำพูน
วันอังคารที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑
~ บางคนพอได้ยินคำว่าธรรม ก็งง พยายามไปหาธรรม แต่ไม่รู้ว่าธรรมอยู่ไหน แต่ถ้าเราใช้ภาษาไทย ก็คือ ธรรม คือ เดี๋ยวนี้ สิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ใครรู้บ้าง เพราะไม่รู้ แล้วก็มีผู้ทรงตรัสรู้คือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงความจริงให้คนที่เกิดมาในสังสารวัฏฏ์ เกิดแล้วก็เป็นอย่างนี้ในแต่ละชาติ ตายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็ตาย ก็เป็นอย่างนี้ แต่ไม่รู้ เพราะฉะนั้น ธรรมก็คือสิ่งที่มีจริง แต่ไม่รู้ จนกว่าจะมีการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งก็รู้สิ่งที่มีแต่เราไม่เคยรู้มาก่อน
~ ฟังธรรม ไม่ใช่ว่าเราจะต้องไปรู้คำยากๆ แต่เริ่มรู้ว่า ความไม่รู้มีตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเมื่อฟังแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะไปรู้อย่างอื่น แต่รู้สิ่งที่กำลังมีตามปกติตามธรรมดา และมีความเข้าใจที่มั่นคงขึ้นๆ
~ ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง ฟัง เพื่อเข้าใจถูกต้องว่า ไม่ใช่เราเพราะอะไร เพราะว่าเพียงเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปไม่กลับมาอีกเลย ค่อยๆ เข้าใจไป จะเร่งรัดให้ทุกคนเข้าใจธรรมหมดเดี๋ยวนี้ เป็นไปไม่ได้เลย ไม่ใช่หนทางด้วยความเป็นตัวตนที่จะไปให้ความรู้ การละ เกิดขึ้น แต่ว่าต้องเป็นความเข้าใจทีละเล็กทีละน้อย เพราะไม่รู้ จึงติดข้อง แต่เมื่อรู้แล้วก็ค่อยๆ ละคลายความติดข้อง
~ ฟังธรรมเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ตามความเป็นจริง
~ ฟังแล้วรู้ จึงค่อยๆ ละคลายความไม่รู้
~ ความเข้าใจ ทำให้ค่อยๆ ละความไม่รู้ เพราะว่าถ้าตราบใดยังมีความไม่รู้ ก็เป็นอย่างนี้ เกิดแล้วก็ตาย แล้วก็เกิดอีกแล้วก็ตายอีก ไม่จบ ไม่มีการออกไปจากการเกิดการตายได้เลย
~ ขณะที่เข้าใจ ก็ค่อยๆ ละคลายความไม่รู้ ไม่ต้องไปหวังหรือต้องการอะไร เพราะเหตุว่าไม่สามารถเป็นไปได้ด้วยความหวังหรือความต้องการ แต่ว่าขณะใดที่มีความเข้าใจถูกเห็นถูกเกิดขึ้น ความไม่รู้ ความติดข้อง และความเข้าใจผิดก็จะลดน้อยลง
~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือปัญญา ทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงทุกคำ น้อมนำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้องว่าเป็นอนัตตา คือ ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสะสมบารมี (คุณความดีที่จะทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) ถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะมีคำแต่ละคำซึ่งเป็นปัญญาที่จะทำให้คนฟังเกิดปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก เพราะฉะนั้น พระองค์จึงได้ทรงแสดงพระธรรม ให้เข้าใจ
~ โลภะ เกิด มีหน้าที่เดียว คือ ติดข้อง ซึ่งมีมาก ตั้งแต่อ่อนที่สุดจนกระทั่งแรงที่สุด มีกำลังกล้า
~ สิ่งที่ชาวโลกไม่รู้ แต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงธรรมโดยละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง คือ ทรงแสดงถึงจิตแต่ละขณะเกิดพร้อมกับเจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดประกอบพร้อมกับจิต) กี่ประเภท เมื่อไหร่ ขณะไหน เพราะฉะนั้น จึงเป็นอภิธรรม ธรรมที่ลึกซึ้งละเอียดยิ่ง ทรงแสดงเพื่อให้เข้าใจถูกต้องว่า ไม่มีเรา ไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรมทั้งหมด
~ แต่ละคนก็เป็นแต่ละหนึ่งๆ ถ้าไม่มีธรรมเลยจะมีคนนั้นคนนี้ไหม เพราะตามความเป็นจริงแล้วไม่มีสัตว์ บุคคล แต่มีธรรม แล้วใครจะเปลี่ยนแปลงลักษณะของสภาพธรรมได้? ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
~ ที่ว่าตาย ก็คือ จิตขณะสุดท้ายของชาตินี้ เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ที่จะทำให้สิ้นสุดความเป็นคนนี้
~ ตายแล้วเกิดแน่ (สำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสซึ่งเป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต อยู่) เหมือนเมื่อสักครู่ดับแล้ว ก็ต้องมีขณะนี้ หรือว่าวันนี้ มี ก็ต้องมีขณะต่อไป ถ้ายังคงเป็นผลของกรรมนี้ ก็เป็นพรุ่งนี้ของคนนี้ แต่ถ้าสิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้ ก็จะไม่เป็นพรุ่งนี้ของคนนี้ แต่จะเป็นขณะต่อไปของกรรมที่จะทำให้เกิดเป็นบุคคลใหม่ต่อไป
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมเพื่ออะไร? เพื่อความเข้าใจถูก ถ้าไม่เข้าใจ ก็ลดละอะไรไม่ได้, ความจริงเป็นอย่างไร พระองค์ทรงแสดงธรรมตลอด ๔๕ พรรษาเพื่อให้คนได้มีโอกาสได้ยินได้ฟัง, คนที่มีโอกาสได้ยินได้ฟัง รู้คุณค่าของพระธรรมและพระวินัย เพราะฉะนั้น แต่ละหนึ่งคนก็มีความหวังดีต่อคนอื่นที่จะให้เขาได้มีความเข้าใจถูก ก็ทำทุกอย่าง มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ทำทุกทาง เพื่อให้คนเข้าใจถูก เมื่อเขาเข้าใจถูก เขาย่อมทำสิ่งที่ถูก แต่ว่าถ้าเขาไม่เข้าใจ เราจะไปทำอะไรเขาได้ แต่ว่า ดีกว่าให้ไม่เข้าใจใช่ไหม มิฉะนั้น พระพุทธศาสนา คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็อันตรธาน (สูญสิ้นไป)
~ เมื่อมีความหวังดีที่จะให้ทุกคนได้เข้าใจความจริงตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง กล่าวได้ว่า เราได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้วสำหรับในชาตินี้
~ ถ้าเขายังไม่เข้าใจธรรมตราบใด เขาก็ยังทำผิด คิดผิดตลอดไป จนกว่าจะเข้าใจ เพราะฉะนั้น ถ้ามีใครที่เข้าใจถูกแล้วจะทำอะไรมากน้อยแค่ไหน ตามกำลังของความมั่นคงของการเห็นประโยชน์ ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราจะเปลี่ยนโลกเราเปลี่ยนไม่ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดก็ได้ทำประโยชน์ให้คนได้เข้าใจถูกต้อง
~ พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดำรงอยู่ได้ด้วยความเข้าใจถูก ไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิตซึ่งเป็นพุทธบริษัท
~ พระ คือ ผู้ประเสริฐ ประเสริฐตรงไหน? ไม่ใช่พูดลอยๆ ต้องมีเหตุผล ประเสริฐตรงไหน? ประเสริฐตรงที่ประพฤติตามพระธรรมวินัย ซึ่งต้องมีความเข้าใจในพระธรรมวินัย เพราะว่าถ้ามีความเข้าใจถูกต้องแล้วจะไปทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัยได้ไหม? ก็ไม่ได้, ผู้ที่เข้าใจและประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย เท่านั้น ที่เป็นภิกษุในพระธรรมวินัย.
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย เป็นอย่างยิ่ง ครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนา
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ตายแล้วเกิดแน่ (สำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสซึ่งเป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต อยู่) เหมือนเมื่อสักครู่ดับแล้ว ก็ต้องมีขณะนี้ หรือว่าวันนี้ มี ก็ต้องมีขณะต่อไป ถ้ายังคงเป็นผลของกรรมนี้ ก็เป็นพรุ่งนี้ของคนนี้
แต่ถ้าสิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้ ก็จะไม่เป็นพรุ่งนี้ของคนนี้ แต่จะเป็นขณะต่อไปของกรรมที่จะทำให้เกิดเป็นบุคคลใหม่ต่อไป
เป็นคำเตือนให้ไม่ประมาทในเวลาที่เหลืออยู่ของการเป็นบุคคลนี้ มีชีวิตอยู่เพื่อสะสมความเข้าใจความจริงจากการฟังพระธรรม เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชาตินี้
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลวิริยะของอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย ด้วยความขอบพระคุณ ค่ะ