ความเห็นผิด คืออย่างไร?
โดย บ้านธัมมะ  1 ก.ค. 2565
หัวข้อหมายเลข 43300

錯誤的見解是什麼?

ความเห็นผิด คืออย่างไร?


阿姜舒淨佛法討論 01-06-2022

การสนทนาธรรมกลุ่มจีน 01-06-2022

問: 在相應部的焰摩迦經裡,名叫焰摩迦的比丘,有說是,煩惱已盡的比丘,當死後就不存在了,不再出生了,為什麼這樣的說法會是一個邪見?

ผู้ถาม: ในสังยุตตนิกาย ยมกสูตร ภิกษุที่ชื่อว่า ยมกะ กล่าวว่าพระขีณาสพ เมื่อตายไปแล้วย่อมขาดสูญ ย่อมไม่เกิดอีก ทำไมการกล่าวเช่นนี้จึงเป็นความเห็นผิดอย่างหนึ่ง?

Ajhan Sujin: 現在這一刻,在看的是誰? 如果我們認為是我在看,這是正確的見解,還是錯誤的見解? 我們去尋找答案,其實答案就是現在這一刻,現在這裡。現在那個去看的,到底是我在看還是那個在看的 法?

อ.สุจินต์: เดี๋ยวนี้ขณะนี้ ที่กำลังเห็นคือใคร? ถ้าหากว่าเราเข้าใจว่าเป็นเราที่กำลังเห็น นี่คือความเห็นที่ถูกต้อง หรือเป็นความเห็นที่ผิด? เราไปค้นหาคำตอบ แต่คำตอบอยู่ที่นี่ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ขณะนี้ เดี๋ยวนี้สิ่งที่กำลังเห็นนั้น ตกลงเป็นเราที่กำลังเห็น หรือว่าเป็นสภาพธรรมที่กำลังเห็น?

一切都過去了。 因為“邪見漏” (ditthasava) ,所以我們很快就會認為是有一個我的存在,在經驗。也就是對真相正確的瞭解還不夠,所以,錯誤的見解,無明邪見,就會一直,很容易的生起,所以,我們總是認為在那裡出現的法是人或者是某個東西。

ทั้งหมดก็ได้ผ่านไปหมดแล้ว แต่เพราะเหตุว่า"ทิฏฐาสวะ" ด้วยความรวดเร็ว เราจึงเข้าใจผิดว่ามีตัวเราที่กำลังรู้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ความเข้าใจถูกตามความเป็นจริงนั้นยังไม่พอ เพราะฉะนั้น ความเห็นที่ไม่ถูกต้อง ความเห็นผิด ความ ไม่รู้ ก็ยังคงเกิดขึ้นบ่อยๆ ได้โดยง่าย เพราะฉะนั้น เราจึงมักจะเข้าใจว่าสภาพธรรมที่ปรากฎนั้น เป็นคน หรือไม่ก็เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด

即使是現在,我們是不是覺得被看到的,是某個東西。就是現在,有人,有東西在看,所以錯誤的見解 “邪見” (ditthi)一直在圍繞,不管是在看的那一刻,在聽的那一刻,在聞的那一刻,在嚐的那一刻,在碰觸的那一刻,在想的那一刻。

แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ เราก็ยังคงเข้าใจว่าสิ่งที่ถูกเห็นนั้นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งก็คือเดี๋ยวนี้ มีคน มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่กำลังถูกเห็น เพราะฉะนั้น ความเห็นผิด "ทิฏฐิ" จึงห้อมล้อมอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นขณะที่กำลังเห็น กำลังได้ยิน กำลังได้กลิ่น กำลังลิ้มรส กำลังกระทบสัมผัส กำลังคิดนึก

就像現在,現在是不是有錯誤的見解? 所以,對現在這一刻都不知道,又怎麼可能培養出,能根除邪見的正確的見解呢? 也只有透過現在這一刻的真相,瞭解這一刻的法的真相,才能夠真正的累積智慧,才能夠真正的根除錯誤 的見解 “邪見”。

ก็เหมือนกับเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้ก็ยังคงมีความเห็นผิดใช่ไหม? เพราะฉะนั้น เดี๋ยวนี้ ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นธรรมะ แล้วจะสามารถที่จะอบรมเจริญความเห็นถูกที่จะสามารถกำจัดความเห็นผิดได้อย่างไร? ก็มีเพียงการเข้าใจความจริงของเดี๋ยวนี้ ขณะนี้เท่านั้น จึงจะสามารถสะสมปัญญาได้ จึงจะสามารถละทิฏฐิความเห็นผิดได้จริงๆ

我們要一次瞭解一個法,這樣一字一句的清楚,一次瞭解一個法,我們才能夠瞭解五蘊在一起的時候是什麼意思? 並不等於組合成一個存在,不是只在文字的表面上記住文字的意思而已,而是真的懂,這個文字所描述到的法的真相是什麼。

เราต้องเข้าใจทีละหนึ่งธรรมะ เข้าใจชัดเจนอย่างนี้ทีละหนึ่ง ทีละคำ ทีละหนึ่งสภาพธรรม เราจึงจะสามารถเข้าใจขณะที่ขันธ์ ๕ ที่อยู่ด้วยกันนั้นว่าคืออะไร? ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามีสิ่งที่รวมกันเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดตรงนั้น ไม่ใช่อยู่ที่ความหมายตามตัวพยัญชนะเท่านั้น แต่คือเข้าใจคำหรือพยัญชนะที่อธิบายถึงความจริงของสภาพธรรมนั้นว่าคืออะไร

所以,“蘊”(khandha)這個字是什麼意思?

能夠只有一個 “蘊” 嗎 ?

“蘊” 可不可以單獨的生起?

只有一個 “色蘊” 生起嗎?

只有一個 “受蘊” 生起嗎?

只有一個 “想蘊” 生起嗎?

只有一個 “行蘊” 生起嗎?

只有一個 “識蘊” 生起嗎?

เพราะฉะนั้น "ขันธ์" คำนี้หมายความว่าอะไร?

มีเพียง "ขันธ์" เดียวได้ไหม?

"ขันธ์" สามารถเกิดขึ้นเดี่ยวๆ เพียงขันธ์เดียวได้ไหม?

มีเพียง "รูปขันธ์" เพียงขันธ์เดียวเกิดขึ้นใช่ไหม?

มีเพียง "เวทนาขันธ์" เพียงขันธ์เดียวเกิดขึ้นใช่ไหม?

มีเพียง "สัญญาขันธ์" เพียงขันธ์เดียวเกิดขึ้นใช่ไหม?

มีเพียง "สังขารขันธ์" เพียงขันธ์เดียวเกิดขึ้นใช่ไหม?

มีเพียง "วิญญานขันธ์" เพียงขันธ์เดียวเกิดขึ้นใช่ไหม?

法有不同分類的方式,所以 “蘊” 也是一種分類的方式 其實五蘊就是心、心所、色法、是不同的分類而已,因此,“蘊” 就是 “法” 的意思。

การแบ่งประเภทธรรมะมีหลายนัย ซึ่งโดยนัยของความเป็น"ขันธ์" ก็นัยหนึ่ง ขันธ์ ๕ จริงๆ แล้วก็คือ จิต เจตสิก รูป ด้วยเหตุนี้ "ขันธ์" ก็คือ "ธรรมะ"นั่นเอง

“蘊” 的實相是什麼意思? 當不同的 “蘊” 在一起又是什麼意思? 硬或軟是 “蘊” 嗎?冷或熱是 “蘊” 嗎? 因此,“四大” 是不是一個 “蘊”,“四大” 是四個不同的色法。 它們是不是一起生起? 心與心所是不是一起生起? 當心生起去認知所緣的那一刻,那一刻的 “蘊” 是一 起生起了。

ความจริงของ "ขันธ์" หมายความว่าอะไร? ในขณะที่ขันธ์แต่ละขันธ์อยู่ด้วยกันนั้นหมายความว่าอะไร? อ่อนหรือแข็งเป็น "ขันธ์" ไหม? เย็นหรือร้อนเป็น”ขันธ์”ไหม? มหาภูตรูป ๔ เป็น "ขันธ์" ขันธ์หนึ่งใช่ไหม? "มหาภูตรูป ๔" คือ รูปแต่ละหนึ่งที่ต่างกัน ๔ รูป รูป ๔ รูป เกิดขึ้นพร้อมกันใช่ไหม? จิตและเจตสิกเกิดขึ้นพร้อมกันใช่ไหม? เพราะฉะนั้นในขณะที่จิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์นั้น ขณะนั้น "ขันธ์" ก็ได้เกิดขึ้นพร้อมกันแล้ว

或者是從另一種的分類來說, “處” (ayatana) 在看的 那一刻,有眼根,眼識,色塵,正在生起的究竟法會合在一起了,所以,“看見” 就發生了。

หรือจะกล่าวธรรมะโดยนัยของ "อายตนะ" ก็ได้ ขณะที่เห็น ขณะนั้นมีตา มีจิตเห็น มีสี สภาพปรมัตถธรรมเกิดขึ้นประชุมกัน "การเห็น" จึงเกิดขึ้น

倘若現在沒有智慧去瞭解真相,那是什麼?那就是有錯誤的見解,錯誤的見解現在就在這裡。 當沒有正確的見解生起的時候,我們就會誤認為人跟東西是存在的,所以要根除邪見是要從現在的瞭解法開始,這件事情的因緣條件,也只能透過,討論佛法,聞慧,思慧,的累積。

ถ้าเดี๋ยวนี้ไม่มีปัญญาที่จะเข้าใจความจริง นั่นคือความเห็นที่ผิด ความเห็นผิดที่มีอยู่ที่นี่เดี๋ยวนี้ขณะนี้ ในขณะที่ไม่มีความเห็นที่ถูกต้องเกิดขึ้น เราก็จะเข้าใจผิดว่า มีคน มีสิ่งหนึ่งสิ่งใด ดังนั้น จะละความเห็นผิดได้ ต้องเริ่มต้นที่การเข้าใจในขณะนี้ และปัจจัยของการที่จะเข้าใจในเรื่องนี้ได้ คือ สะสมการฟังธรรมะ การพิจารณาธรรมะ และการสนทนาธรรมะ

現在,並不是在書裡面。 什麼是邪見?什麼事錯誤的見解? 就是現在 沒有如實的瞭解正在出現的真相 這件事情有沒有正確的瞭解了?

“เดี๋ยวนี้” ไม่ได้อยู่ในหนังสือ อะไรคือทิฏฐิ? อะไรคือความเห็นผิด? ก็คือ เดี๋ยวนี้ ที่กำลังไม่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง มีความเข้าใจเรื่องนี้จริงๆ แล้วหรือยัง?

倘若,不能夠正確的瞭解什麼是錯誤的瞭解,那,錯誤的瞭解怎麼能被根除呢? 錯誤的見解現在就在,可是正確的見解呢? 所以必須要聽聞三藐三佛陀的教導,只有慢慢的累積,慢慢的去瞭解,那個錯誤的見解是什麼。

ถ้าไม่สามารถเข้าใจว่าอะไรคือความเข้าใจผิด แล้วจะละความเข้าใจผิดได้อย่างไร? ความเห็นผิดมีอยู่เดี๋ยวนี้ แล้วความเห็นถูกล่ะ? เพราะฉะนั้นต้องได้ฟังคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อค่อยๆ สะสมความเข้าใจว่าความเห็นผิดคืออะไร

正確的見解生起的那一刻,與錯誤的見解是非常的不同的。能夠去瞭解那些不善法,錯誤的瞭解,邪見,當然是正見,是智慧,是正確的瞭解。 對真相是要誠實,要真心實意的去瞭解真相是什麼?

ขณะที่ความเห็นถูกเกิดขึ้นย่อมต่างจากความเห็นผิดอย่างมาก การที่จะสามารถเข้าใจอกุศลธรรม ความเข้าใจผิด ความเห็นผิด แน่นอนว่าต้องเป็นปัญญาซึ่งเป็นความเห็นถูกความเข้าใจถูก ต้องมีความตรงต่อความจริง จริงใจจริงๆ ที่จะเข้าใจว่าความจริงแท้ๆ คืออะไร?

現在正在看的,正在聽的也不是我,但是這件事情並沒有呈現出來真相還沒有出現。所以在理智上的瞭解,對在看的不是我的這個信心,是不是有逐漸的累積?否則,邪見很容易就把我們撇開了真相。

เดี๋ยวนี้ที่กำลังเห็น ที่กำลังได้ยิน ก็ไม่ใช่เรา แต่ความจริงนี้ก็ยังไม่ได้ปรากฎ เพราะฉะนั้นความเข้าใจในขั้นปริยัติ ความมั่นคงในความเห็นถูกว่าไม่ใช่เรา ได้ค่อยๆ สะสมบ้างแล้วหรือยัง? มิฉะนั้นความเห็นผิดก็จะพรากเราออกจากความจริงได้ง่าย

法的細微深奧,目前可能還不是我們能夠真正體會。 有誰會知道? 只有智慧,正確的瞭解,才可以知道。 這些不善法,這些邪見的累積是非常久的,一世一世,一劫一劫,連續不斷的累積下來的。

ธรรมะละเอียดลึกซึ้ง เวลานี้เรายังไม่สามารถรู้ความจริง มีใครรู้ได้บ้าง? มีเพียงปัญญาความเห็นถูกเท่านั้นที่รู้ อกุศลธรรมทั้งหลาย การสะสมของความเห็นผิดทั้งหลายมีมานานแสนนาน สะสมสืบต่อมาในแต่ละชาติ แต่ละกัปป์

無明,貪愛,以及錯誤的見解的累積,會很容易的就有錯誤的練習 “儀式儀軌” (silapadaparamasa) ,只有智慧才能夠正確的瞭解。

การสะสมของโมหะ โลภะ รวมถึงความเห็นผิด ทำให้การยึดถือข้อปฏิบัติด้วยความเห็นผิดต่างๆ นั้นเกิดขึ้นได้ง่าย มีเพียงปัญญาเท่านั้นที่จะสามารถนำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้องได้

真相的瞭解,是因為有因緣條件生起執行瞭解的功能。 真相的瞭解,是有不同程度的智慧。所以,對佛陀教導的信心,也只能在理智上去瞭解法,然而,這個信心累積的加深,也會成為接下來的智慧繼續成長的條件,直到開悟。

การเข้าใจความจริง ต้องเป็นเพราะมีเหตุปัจจัยเกิดขึ้นกระทำกิจเข้าใจ การเข้าใจความจริง ต้องมีปัญญาเป็นไปในแต่ละระดับ เพราะฉะนั้น ศรัทธาความมั่นคงในคำสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องเริ่มจากความเข้าใจธรรมะในขั้นปริยัติก่อน จากนั้นค่อยๆ มีการสะสมศรัทธาความมั่นคงเพิ่มขึ้น จึงจะสามารถเป็นปัจจัยในปัญญาเจริญขึ้นต่อไป จนกระทั่งรู้แจ้งความจริง

這是一條非常細微能根除邪見的道路。 那現在,對剛剛提到的錯誤的見解還有懷疑嗎?對焰摩迦比丘的見解還有疑惑不瞭解嗎?其實那個就是錯誤的見解。

หนทางนี้เป็นหนทางที่ละเอียดมากที่จะสามารถละความเห็นผิดได้ ไม่ทราบว่ายังมีความสังสัยเกี่ยวกับเรื่องความเห็นผิดของยมกะภิกษุที่ได้กล่าวไปแล้วเมื่อสักครู่ไหม? เป็นเรื่องของความเห็นผิด

有沒有理智上的智慧生起,真的瞭解,焰摩迦比丘這件事情也是因緣條件,不是你的瞭解或你的不瞭解,一切都是法,是因緣條件而生,不是我。

การที่จะมีปัญญาในขั้นปริยัติเกิดขึ้นเป็นความเข้าใจความจริงหรือไม่นั้น เป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่เป็นเราหรือเป็นใครที่เข้าใจไม่เข้าใจ แต่ทั้งหมดเป็นธรรมะ

問: 其實是現在這一刻就沒有我,所以,並不是說現在有然後無餘涅槃之後就沒有,重點是現在這一刻就沒有,每一刻都是法。

ผู้ถาม: จริงๆ แล้วเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ ก็คือไม่มี ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวนี้มี พอหลังจากที่ประจักษ์แจ้งในพระนิพพานแล้วก็ไม่มี ที่สำคัญคือ เดี๋ยวนี้ ขณะนี้ก็ไม่มี ทุกขณะทั้งหมดคือธรรมะ

Sarah: 當瞭解時我們也可以更能夠體會,可以越來越瞭解此事的重要性,為什麼老師一直要提醒我們,現在那個正在看的是什麼? 因為,真的能體驗的就是 現在這一刻,這件事情本身就會對出現的法,就只是法,沒有任何東西的存在,不是我,不是我的看,不是我在看,不是我在經驗。

ซาร่า: เมื่อเข้าใจ เราจะยิ่งซาบซึ้งในความสำคัญของการที่จะสามารถมีความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น ว่าทำไม ท่านอาจารย์ต้องเตือนพวกเรามาโดยตลอด ว่าเดี๋ยวนี้ สิ่งที่กำลังปรากฏคืออะไร? เพราะสิ่งที่สามารถจะรู้ได้จริงๆ คือ เดี๋ยวนี้ขณะนี้ ความเข้าใจจริงๆ ในเรื่องนี้จะเกื้อกูลให้สภาพธรรมที่ปรากฎ เป็นเพียงธรรมะ ไม่เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ "เห็น" ของเรา ไม่ใช่เราที่กำลังเห็น ไม่ใช่เราที่กำลังรู้

當我們在閱讀關於焰摩迦經的時候,我們讀的焰摩迦比丘,尊者舍利弗,我們讀到這個人或那個人,好像是在讀一個故事,但事實上都是關乎與 現在這一刻,佛陀教導的每一句話是瞭解現在正在出現的法,因為,如果不是瞭解現在正在出現的法,又怎麼能夠真正的瞭解法真的是無常,苦,無我。

ในขณะที่เรากำลังอ่านพระสูตรไม่ว่าจะเกี่ยวกับยมกะภิกษุ หรือท่านพระสารีบุตร หรือเป็นบุคคลใดก็ตามที่ปรากฏในพระสูตรแต่ละเรื่อง อาจจะเหมือนกำลังอ่านนิทานเรื่องหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วทั้งหมดมีความเกี่ยวเนื่องกับเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เพราะถ้าไม่ใช่การเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฎเดี๋ยวนี้ จะสามารถเข้าใจความจริงของสภาพธรรม ที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาได้อย่างไร

在我們的日常生活中,會想着不同的人,不同的地方地點,各種不同的食物,我們常常進入這樣子概念的思考裡面,可是我們忘了,生命只是現在這一刻 而已,不管是在聽,在看,在想,生命就只是這一刻的經驗而已就過去了。

ในชีวิตประจำวันเรามักจะคิดถึงผู้คน คิดถึงสถานที่ต่างๆ คิดถึงอาหารต่างๆ เรามักจะคิดเป็นไปในเรื่องของบัญญัติ แต่เราลืมไปว่า ชีวิตเป็นเพียงแค่ขณะนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะได้ยิน เห็น หรือว่าคิดนึก ชีวิตก็เป็นเพียงแค่ขณะนี้เท่านั้น แล้วก็ผ่านไป

當我們想着要去印度,香港,其實那個就只是在想而已,我們忘了每一刻,要麼是在看,要麼是在聽,要麼是在想而已,都不是我。

ในขณะที่เราคิดว่าจะไปอินเดีย ไปฮ่องกง จริงๆ แล้ว ก็เป็นเพียงกำลังคิดเท่านั้น เราลืมไปว่าทุกขณะ ถ้าไม่ใช่เห็น ก็คือได้ยิน หรือไม่ก็เป็นเพียงคิดนึกเท่านั้น ทั้งหมดไม่ใช่เรา

非常非常緩慢的隨着智慧的累積建立,越來越瞭解其實並沒有所謂的佛陀的存在,並沒有所謂的你或我或 誰的存在,每一刻就只是法在生滅而已。 當真正的瞭解這只是法,不是誰的存在,這對沉重的負擔是一種釋放。

การเจริญขึ้นของปัญญาเป็นเรื่องที่ช้าอย่างยิ่ง ค่อยๆ เข้าใจว่า แท้ที่จริงแล้วตัวพระพุทธเจ้าก็ไม่มี ไม่มีตัวคุณ หรือตัวเรา หรือใครทั้งสิ้น ทุกขณะเป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นแล้วดับไปเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นในขณะที่เข้าใจถูกว่าเป็นเพียงธรรมะเท่านั้น ไม่มีใครเลย จะเป็นความเบาสบายมาก

Ajhan Sujin: 如果只是瞭解現在沒有人這樣的瞭解夠了嗎?

อ.สุจินต์: ถ้าเข้าใจเดี๋ยวนี้ว่าไม่มีคน การเข้าใจอย่างนี้พอแล้วหรือยัง?

問: 不夠

Ajhan Sujin: 所以只是知道沒有人,沒有我是不夠的。 為什麼?因為是要瞭解法的本質,法的生滅,法的真 相,所以,不可能是我,也不可能有一個我。 對法的興趣,才會是注意法的因緣條件,所以如果我們從來都沒有想要去注意法對法的真相沒有興趣,當然也不會真的有越來越去靠近真相的因緣條件。 比如說,現在是不是有在看,“在看” 這個經驗是不是正在發生?但是對 “在看” 這個真相是有多深的瞭解。

อ.สุจินต์: เพราะฉะนั้นเพียงแค่รู้ว่าไม่มีคน ไม่มีเรานั้น ยังไม่พอ เพราะอะไร? เพราะเหตุว่าต้องเข้าใจลักษณะของสภาพธรรม เข้าใจสภาพที่เกิดดับ เป็นการเข้าใจความจริงที่จะทำให้รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเรา และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีตัวเรา ความสนใจในพระธรรมจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีการพิจารณาธรรมะ ถ้าไม่เคยที่จะคิดถึงที่จะพิจารณาธรรมะ ก็จะไม่มีเหตุปัจจัยที่จะทำให้เข้าใกล้ความจริงได้ เช่น เดี๋ยวนี้กำลังมีเห็น สภาพ "เห็น" กำลังเกิดขึ้น แต่ ความเข้าใจในความจริงของ "เห็น" มีแค่ไหน?

所以,只是在文字上知道,什麼叫作名法,什麼叫作色法,一個是能經驗的,一個是不能經驗的,這樣的知道,是不夠的。 現在在那裡的,不管是名法或者是色法,那個法的本質是什麼?它原本的樣子是什麼?都還沒有真正的呈現出來被瞭解。 能夠逐漸的去瞭解,現在,正在出現的法的真相什麼?這個才能夠真的越來越瞭解,其實並沒有我的存在,並不是我,無我。

เพราะฉะนั้น การรู้เพียงพยัญชนะเท่านั้นว่า อะไรคือนามธรรม อะไรคือรูปธรรม อย่างหนึ่งคือสภาพรู้ อีกอย่างหนึ่งคือสภาพที่ไม่รู้ การเข้าใจแบบนี้ นั้นยังไม่พอ ไม่ว่าสิ่งที่กำลังปรากฏจะเป็นนามธรรม หรือรูปธรรม ลักษณะจริงๆ ของสิ่งนั้นคืออะไร? เพราะขณะนี้ลักษณะในความเป็นธรรมะของสิ่งนั้นก็ยังไม่ได้ปรากฎออกมาให้เข้าใจได้จริงๆ การที่ค่อยๆ เข้าใจ ว่าเดี๋ยวนี้ความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎคืออะไร? คือการที่จะสามารถค่อยๆ เข้าใจเพิ่มขึ้นว่าความจริงแล้วไม่มีเรา ไม่ใช่เรา เป็นอนัตตา

如果不是透過瞭解,現在,在看的並不是我。 還會有其他的方式,真的能夠可以去知道真相嗎?

ถ้าไม่ใช่ความเข้าใจในสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้เดี๋ยวนี้ ที่กำลังเห็นว่าไม่ใช่เรา ยังจะมีวิธีอื่น ที่จะสามารถรู้ความจริงอย่างนี้ได้ไหม?

所以,智慧會瞭解什麼是“忍耐波羅蜜”,倘若沒有各種波羅蜜的培養,又怎麼能幫助智慧的培養,去瞭解,現在正在出現的真相呢?

เพราะฉะนั้น ปัญญาเข้าใจว่าอะไรคือ "ขันติบารมี" ถ้าไม่มีการอบรมเจริญบารมีต่างๆ แล้ว จะเกื้อกูลให้ปัญญาเจริญขึ้น จนสามารถที่จะเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฎเดี๋ยวนี้จริงๆ ได้อย่างไร?

如果不瞭解現在 這一刻正在出現的法,我們就一直的沉浸在概念的世界裡面,現在這一刻的真相是什 麼,都不知道,因此,這就是為什麼我們討論佛法,不斷的聽聞思考,不斷的討論,才有機會去瞭解,什麼是錯誤的見解?否則什麼是錯誤的見解都不知道,又怎麼可能培養正確的見解呢?

ถ้าไม่เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฎในขณะนี้ เราก็ยังคงจมอยู่ในโลกของบัญญัติต่อไป เพราะความจริงของเดี๋ยวนี้ขณะนี้คืออะไร ก็ยังไม่รู้เลย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงต้องสนทนาธรรม ต้องไม่ขาดการฟังธรรม พิจารณาธรรม ต้องไม่ขาดการสนทนาธรรม เพราะจะเป็นโอกาสที่จะเข้าใจว่า อะไรคือความเห็นผิด? มิฉะนั้นแล้วอะไรคือความเห็นผิดก็ยังไม่รู้ แล้วจะสามารถอบรบเจริญความเห็นถูกได้อย่างไร?

我們在學着瞭解跟累積對真相的信心,現在在看不是我,看到的也不是人或東西。 倘若沒有瞭解 現在這一刻的真相,又怎麼能夠看到每一刻的法是無常的危險呢?

เรากำลังศึกษาและสะสมความมั่นคงในความจริง เดี๋ยวนี้เห็นไม่ใช่เรา สิ่งที่ถูกเห็นก็ไม่ใช่คนหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด ถ้าไม่มีความเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ขณะนี้ แล้วจะสามารถเห็นภัยของความไม่เที่ยงในแต่ละขณะได้อย่างไร?

生滅的危險是什麼? 它是不可以成為依靠,所以,苦的止息就是從此再也沒有五蘊生起了。

ภัยของความเกิดดับคืออะไร? สิ่งที่เกิดดับไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้ เพราะฉะนั้น การที่จะดับทุกข์ คือความไม่มีการเกิดขึ้นของขันธ์ ๕ อีกต่อไป

這就是我們為什麼要瞭解真相,因為真相就是法,它生起就滅去。但是錯誤的見解,認為是有什麼東西在那裡,不知道法是生起立即就滅去了,這就是危險。

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงควรเข้าใจความจริง เพราะเหตุว่าความจริงก็คือธรรมะ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป แต่เพราะความเห็นผิดจึงเข้าใจว่าสิ่งที่กำลังปรากฏเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่รู้ว่าสภาพธรรมนั้นเกิดขึ้นแล้วดับไป ทันที นี่คือ ภัย


敬感恩阿姜舒淨 (Ajhan Sujin Boriharnwanaket) 的恩惠

น้อมเคารพในคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

謹以此施法之功德與我們在輪迴裡每一世的父母 師長 同修 親友 仙人 各位讀者及其他一切眾生分享

กุศลในการนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศแด่บิดามารดาในทุกภพทุกชาติ ครูบาอาจารย์ ญาติมิตรสหาย เทวดา และผู้อ่าน รวมถึงสัตว์ทั้งหลาย

By line group Just Dhamma

หมายเหตุ

ที่มา : การสนทนาธรรมออนไลน์ระหว่างท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กับ ชาวจีน

สรุปใจความภาษาจีน โดย 陳品彤 เฉินผิ่นถง (คุณแพท)

แปลภาษาไทย โดย คุณปาล สว่างพัฒนกุล (黃如蓮)


อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... บทความแปลภาษาจีน



ความคิดเห็น 1    โดย เมตตา  วันที่ 1 ก.ค. 2565

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง และยินดีในความดีคุณแพท คุณปาล และทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย chatchai.k  วันที่ 1 ก.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย สิริพรรณ  วันที่ 17 ส.ค. 2567

" สิ่งที่เกิดดับไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้ ฉะนั้น การที่จะดับทุกข์ คือความไม่มีการเกิดขึ้นของขันธ์ ๕ อีกต่อไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงควรเข้าใจความจริง เพราะเหตุว่าความจริงก็คือธรรมะ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป แต่เพราะความเห็นผิดจึงเข้าใจว่าสิ่งที่กำลังปรากฏเป็นสิ่งหนึ่งสิ่ง ใด ไม่รู้ว่าสภาพธรรมนั้นเกิดขึ้นแล้วดับไป ทันที นี่คือ ภัย"
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและยินดีในกุศลท่านผู้สนทนาธรรม และ คุณแพท คุณปาล ค่ะ