[เล่มที่ 32] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 142
กัลยาณมิตตตาทิวรรคที่ ๘
ว่าด้วยความมีมิตรดีเป็นเหตุให้กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นต้น
[๗๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่เป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรืออกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป เหมือนความเป็นผู้มีมิตรดี
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลมีมิตรดี กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.
ธรรม 4 ประการ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญา เป็นเครื่องชำแรกกิเลส
ธรรม 4 ประการ คือ
การคบสัตบุรุษ
การฟังธรรมการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย
การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
ขออนุโมทนาครับ
เรื่อง มิตรที่ดีย่อมแนะนำให้เจริญกุศล เว้นบาป
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 216 ข้อความบางตอนจาก สสปัณฑิตจริยา ว่าด้วยจริยาวัตรของสสบัณฑิต อีกเรื่องหนึ่ง ในกาลเมื่อเราเป็นกระต่าย เที่ยวอยู่ในป่า มีหญ้า ใบไม้ ผักและผลไม้ เป็นภักษา เว้นจากการเบียดเบียนผู้อื่น ใน กาลนั้น ลิง สุนัขจิ้งจอก ลูกนาคและเราเป็น สหายอยู่ร่วมกัน มาพบกันทั้งเวลาเย็นเวลาเช้า เราสั่งสอนสหายเหล่านั้นในกุศลธรรมและ อกุศลธรรมว่า ท่านทั้งหลาย จงเว้นบาปกรรม เสีย จงตั้งอยู่ในกรรมอันงาม เราเห็นพระจันทร์
เต็มดวงในวันอุโบสถ จึงบอกแก่สหายเหล่า นั้นว่า วันนี้เป็นวันอุโบสถ ท่านทั้งหลายจง ตระเตรียมทานทั้งหลาย เพื่อให้แก่ทักขิไณย. บุคคลครั้นให้ทานแก่ทักขิไณยบุคคลแล้ว จง รักษาอุโบสถ สหายเหล่านั้นรับคำของเราว่า สาธุ แล้วได้ตระเตรียมทานต่างๆ ตามสติกำลัง แล้วแสวงหาทักขิไณยบุคคล ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย