ผู้ที่จะเลิกดื่มสุราอย่างถาวรจริงๆ ต้องอบรมเจริญปัญญาจนบรรลุเป็นพระอริยบุคคล ตั้งแต่พระโสดาบันบุคคลขึ้นไป สำหรับปุถุชนทั้งหลายในชาตินี้ได็ศึกษาพระธรรม และเห็นโทษของสุราเมรัยอาจไม่ดื่มตลอดชีวิต แต่ชาติหน้าไม่แน่ ถ้าไปเกิดในสังคม ที่มีการดื่มเป็นปกติก็อาจจะดื่มได้อีก สำหรับพระอริยบุคคลท่านจะไม่ดื่มอีกเลยตลอด สังสารวัฏฏ์ที่เหลือของท่าน
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 80
[๑๗๙] ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษในการเสพน้ำเมา คือสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการ คือ ๒ ความเสื่อมทรัพย์อันผู้เสพพึงเห็นเอง ๑ ก่อการทะเลาะวิวาท ๑ เป็นบ่อเกิดแห่งโรค ๑เป็นเหตุเสียชื่อเสียง ๑ เป็นเหตุไม่รู้จักอาย ๑ เป็นเหตุทอนกำลังปัญญา ๑ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการเสพน้ำเมา คือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเหล่านี้แล
[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 496
ข้อความบางตอนจาก...
๑๐. สัพพลหุสสูตร
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำไห้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งการดื่มสุราและเมรัยอย่างเบาที่สุด ย่อมยังความเป็นบ้าให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์
จบ สัพพลหุสสูตรที่ ๑๐
ขออนุโมทนาครับ