ท่านอาจารย์ สำหรับบรรพชิต ทรงแสดงว่า สิ่งใดที่ควรและไม่ควรสำหรับพระภิกษุ เพราะว่าเพศต่างกัน พระภิกษุจะมาอยู่บ้านดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือพิมพ์ เล่นเทนนิส ได้ไหมคะ ไม่ได้ นั่นไม่ใช่อุปนิสัย พระภิกษุก็ต้องเป็นผู้สงบ ผู้สละ พระภิกษุจะยินดีในการกราบไหว้ของคนอื่น สมควรไหม ไม่สมควร สละคือสละทุกอย่าง ถ้าใครจะกราบไหว้ก็เพราะความดีของคนนั้น แต่ไม่ใช่เราต้องไปสำคัญตนว่า เรามีความสำคัญ ดี พิเศษ และคนอื่นมายกย่อง มากราบไหว้
เพศที่บรรพชา หมายถึงสละ บรรพชาคือสละ อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัย คือ สละบ้านเรือน พ่อแม่ ความสนุก ซึ่งทุกคนก็รู้จักตัวเองตามความเป็นจริง ไม่มีการบังคับว่า ให้คนฟังทั้งหมดไปบวช หรือไปอุปสมบท ไปบรรพชา ในพระพุทธศาสนาไม่มีคำว่า “ต้อง” หรือคำว่า “อย่า” แต่ทรงแสดงเหตุและผลทั้งหมดให้คนฟังพิจารณา เป็นความเข้าใจของคนนั้น
ถ้าเรารู้ว่า เราไม่ได้สะสมมาที่จะเป็นบรรพชิต ที่จะสละ ก็ไม่ต้องสละ ไปฝืนสละ แล้วก็เป็นทุกข์ แต่สามารถอบรมเจริญปัญญาได้ทุกหนทุกแห่งทุกขณะ แม้แต่ที่นี่ ที่นี่ก็ไม่ใช่วัด ไม่ใช่เป็นที่เงียบในป่า แต่ที่ไหนที่มีการฟังให้เข้าใจธรรมะ ที่นั้นก็สามารถอบรมเจริญปัญญาได้
บรรพชิต คือ ผู้สละ ละทุกสิ่งที่กระทำดั่งคฤหัสถ์ ออกบวช เพื่อถึงความสิ้นทุกข์ แต่ ผู้บวชอ้างยุคสมัย ขอทันโลก แต่เป็นโลกที่คฤหัสถ์เขาทำกัน เล่นเฟซบุ๊ค เดินห้าง รับเงินทอง มีบัญชีธนาคาร ซ่อมถนนชาวบ้าน ไม่ใช่กิจของภิกษุ ทันโลกของพระภิกษุ คือ โลกตามพระวินัยบัญญัติ ไม่ขัดแย้งกับพระวินัย ประพฤติให้น่าเลื่อมใส ดั่งเป็นผู้สละ ประพฤติอบรมปัญญาขัดเกลากิเลสตามพระวินัยบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว ไม่ใช่ ตามโลกคฤหัสถ์ กระทำตนแบบคฤหัสถ์ นำมาซึ่งการเพิ่มกิเลส พระพุทธเจ้าทรงติเตียน ภิกษุประพฤติตนดั่งคฤหัสถ์ ชาวพุทธ ควรตื่นรู้ความจริงว่า พระคือใคร การบวชคืออะไร และ ไม่สนับสนุนพระเหล่านั้น มีการให้เงินและทอง เป็นต้น อันเป็นการรักษาพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
กราบอนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ