พึ่งรู้ว่าตัวเองมีนิสัยแย่แบบนี้ตอนมีแฟนนี่แหละค่ะ คือขี้งอแง ไม่พอใจก็จะงอนละ แค่กับแฟนเท่านั้นนะคะ งอนได้ตลอด พองอนเสร็จก็จะร้องไห้ เสียใจ แล้วก็มาคิดได้ทีหลังว่าทำไมเราถึงนิสัยแย่แบบนี้ รู้สึกผิดทีหลัง ค่ะ สงสัยตัวเองมาก เราเป็นอะไร ตอนมีอารมณ์ก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ รู้นะคะว่าเนี่ยคือไม่พอใจละ แต่หยุดไม่ได้ค่ะ ต้องปล่อยให้งอนตลอดเลยอยากแก้มากเลยค่ะ ทำไงดี ทั้งที่แฟนเราเค้าไม่เคยงอนเราเลยค่ะ เค้าขอให้เรามีเหตุผล เข้าใจเค้าบ้าง ตอนนี้สงสารแฟนมากค่ะ ต้องทนรับอารมณ์เรา และสงสารตัวเอง เกลียดตัวเองเหมือนกันบางที โดยนิสัยเดิมเราเอาแต่ใจค่ะ พยายามบอกแฟนค่ะว่าเราไม่อยากมีนิสัยแบบนี้เลยแต่มันควบคุมไม่ได้ เลยให้แฟนไม่ต้องทนคบกับเราค่ะ แต่เค้าก็ยังยืนยันจะคบกับเรา เห้อ รู้สึกผิดค่ะ รู้สึกแย่ ที่ทำให้คนอื่น (คนรัก) ทุกข์เพราะเรา บางทีเราอารมณ์ไม่ดีก็ไปลงที่เค้าค่ะ ลำพังเมื่อตอนโสดก็ไม่เคยเป็นแบบนี้นะคะ มีความสุขดีค่ะ ส่วนตัวก็ชอบธรรมะนะคะ ปฏิบัติดีมาตลอดเลย ถือศีล 5 แต่พอมีแฟนเท่านั้นค่ะ รู้ว่าตนเองเปลี่ยนไปเลย เริ่มรู้สึกว่าความอดทน การควบคุมอารมณ์ สติเรามันลดลง เรียกว่าต้องใช้ความพยายามสูงขึ้น เลยเลือกยอมตัดใจไปเลยค่ะค่ะ คิดว่าอยู่คนเดียว มันสบายกว่าไม่ต้องงอแงใส่ใครค่ะ ไม่ทุกข์ ไม่เจ็บ ไม่ต้องร้องไห้ด้วย แต่พอจุดดี จุดที่มีแฟนมันต้องปรับไรหลายอย่าง ถามว่ารักมั้ยมันก็รักค่ะ เพราะเค้ายืนยันจะคบกับเราต่อ ต้องบอกว่าแฟนดีมากค่ะ รับเราได้ทุกอย่าง ไม่เคยชวนเราทะเลาะเลย เลยอยากปรับปรุงตัวเองค่ะ ท่านใดมีข้อเสนอแนะ วิธีแก้ไขมั๊ยค่ะ ขอบพระคุณที่เมตตาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สาเหตุปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ไม่พ้นจากิเลสที่สะสมมา ทั้งความงอน ขี้น้อยใจ ก็เป็นกิเลสคือ โทสะ ที่มีความรู้สึกไม่สบายใจในขณะนั้น และเพราะมีความติดข้อง คือ โลภะ ในสิ่งต่างๆ ที่สมมติบัญญัติว่าเป็นภรรยา เพราะติดข้อง กลัวการพลัดพรากจึงเกิดความน้อยใจ และเพราะมีความไม่รู้ จึงทำให้เกิดกิเลสประการต่างๆ ครับ
ความทุกข์ทั้งหลายเกิดมาจากกิเลส (โรคทางใจ) ตราบใดที่ยังไม่ได้ดับ ก็ยังเป็นเหตุให้เกิดทุกข์นานาประการ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ณ.ที่นี้มีแต่กัลยาณมิตรที่มีเมตตาพร้อมที่จะเกื้อกูลให้เกิดปัญญาความเข้าใจธรรม ซึ่งเป็นยาที่วิเศษที่สุดที่จะรักษา คนไข้ที่เป็นโรคต่างๆ ให้หายได้ แต่กิเลสที่สะสมมาก็มากเหลือเกิน อดทนที่จะฟังพระธรรมสะสมความเข้าใจไปเรื่อยๆ กิเลสที่มีต้องค่อยๆ ขัดเกลาด้วยปัญญา คือ ความเข้าใจธรรมเท่านั้น
เพราะฉะนั้น อยากจะให้งอนนิสัยดีขึ้น หรือ จะเข้าใจพระธรรม ที่จะเป็นหนทางละกิเลส ละความงอนได้ในที่สุด นั่นคือสิ่งที่น่าคิดพิจารณาว่า เมื่อหายงอนแล้ว จะศึกษาพระธรรมไหม เพราะ พระธรรมไม่ใช่แค่ศีล 5 แต่ ปัญญา เป็นสำคัญ อันเกิดจากการฟัง ศึกษาพระธรรมใน เวปนี้ ครับ ขออนุโมทนา
ความเห็นผิดนี่มันมากมาย หากพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงพระมหากรุณาทรงแสดง ก็คงไม่รู้อีกมากมายต่อไป
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นเครื่องเกื้อกูลที่ดี เมื่อมีความเข้าใจถูกเห็นถูกค่อยๆ เจริญขึ้น ความประพฤติเป็นไปทางกาย วาจา และใจ ก็จะค่อยๆ ดีไปด้วย คล้อยตามความเข้าใจที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ซึ่งจะขาดการฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวันไม่ได้ และ ชีวิตประจำวันไม่พ้นไปจากความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นกุศล หรือ อกุศล เกิด ก็คือธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
โดยส่วนตัว หนูก็มีนิสัยประมาณนี้เหมือนกัน แต่หนูก็พยายามคบและพูดคุยอยู่ใกล้กัลยาณมิตร กับ บุคคลที่ไม่ขี้น้อยใจเข้าไว้ และอยู่ในสภาพแวดล้อม (บุคคล) ที่ดีๆ และสะสมสิ่งที่ดีๆ เช่นทำบุญหรือเจริญการกุศลอื่นๆ สะสมสิ่งที่ดีๆ เข้าไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่หายขาดจากการน้อยใจหรอกนะคะถ้ายังไม่ได้อบรมเจริญปัญญา แต่ก็ถือเป็นการสะสมนิสัยสิ่งที่ดีๆ หนูก็ไม่ได้เก่งหรอกนะคะ ทุกวันนี้นิสัยที่ขี้งอนก็ยังมีอยู่ แต่ก็พยายามสะสมสิ่งที่ดีๆ เข้าไว้ สุดท้ายนี้หนูขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ