สำหรับคนดี ผู้ไม่ข่มความพลัดพราก อันมีสัตว์และสังขารที่รัก เป็นอารมณ์อยู่ และทุกข์อันเกิดในสรีระ มีโรคลมอันตัดที่ต่อและเครื่องผูกเป็นต้น ข่มไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ ซึ่งมีแก่สัตว์ทั้งปวง ผู้กำลังถูกโรคเสียดแทงเป็นธรรมดา โดยไม่แปลกกันเช่นนี้ ฉะนั้น มรณะนี้ พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า เป็นทุกข์เหมือนกันแล
เมื่อคนชั่วจะตาย ก็เป็นทุกข์ เพราะคิดถึงกรรมชั่วที่ได้ทำแล้ว และอาจจะเห็นนิมิตของกรรมชั่วคือ ภพภูมิที่จะไปเกิดต่อไป ก็ทำให้เกิดความทุกข์ขึ้น หรือสำหรับคนดี แต่ยังไม่สามารถที่จะข่มความพลัดพรากจากผู้เป็นที่รัก ทั้งสัตว์และสังขารที่รักซึ่งกำลังเป็นอารมณ์ ก็จะทำให้เกิดความทุกข์ได้ เช่นเดียวกัน มีท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ท่านอยู่ใกล้คนที่กำลังจะตายคนหนึ่งซึ่งใส่แหวน ท่านก็ลองใจ เพราะรู้ว่ากำลังจะตาย ท่านจับแหวน แล้วลองขยับดูเพื่อจะถอด คนที่กำลังจะตายก็กำไว้แน่น ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าความติด ความยึดในวัตถุสังขารซึ่งเป็นที่รัก มากมายสักแค่ไหน แม้กำลังจะตาย ก็ไม่ยอมที่จะให้สิ่งที่พอใจนั้นจากพรากไป
ขอเชิญคลิกอ่านตอนต่อไป ...
แด่ผู้มีทุกข์
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ