กล่าวโดยปรมัตถธรรม เราไม่มี มีแต่จิต เจตสิก รูป เท่านั้น ผู้ถูกอวิชชาปิดกั้น ย่อมสำคัญปรมัตถธรรมว่า เป็นเรา เป็นของเรา ตัวตนของเรา ผู้ละอวิชชาได้แล้ว ย่อมไม่สำคัญปรมัตถธรรมว่าเป็นเรา เป็นของเรา ตัวตนของเรา ผู้ที่จะละอวิชชาได้ด้วยการอบรมเจริญอริยมรรคมีองค์ ๘
ถ้าพูดว่าไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่เรา ก็เป็นแต่เพียงความคิด เพราะว่า ขณะนั้น ปัญญายังไม่ได้ประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมที่ไม่ใช่เรา สภาพธรรม ที่ไม่ใช่เรา คือสภาพธรรมที่เป็นรูปธรรมก็เป็นรูปธรรม สภาพธรรมที่เป็น นามธรรมก็เป็นนามธรรม ถ้าปัญญาสามารถที่จะรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ถูกต้องแยกขาดจากกัน ก็จะค่อยๆ ละความเป็นเรา จนกว่าจะดับหมด เมื่อเป็นโสตาปัตติมัคคจิตเกิดขึ้นรู้แจ้ง นิพพาน จึงสามารถที่จะดับความสงสัย ความไม่รู้ ความเห็นผิดในลักษณะ ของสภาพธรรมว่าเป็นเราได้
ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา มีแค่รูปกับนาม ผู้ที่ละความเห็นผิดว่าเป็นตัว ตนได้เป็นสมุจเฉทปหาน คือ พระโสดาบันขึ้นไป ซึ่งละสักกายทิฏฐิได้ ผู้ที่ได้ นามรูปปริจเฉทญาณ ก็ละสักกายทิฏฐิได้ เพราะรู้แจ้งว่าชีวิตมีแต่รูปกับนาม แต่ละไม่ได้เป็นสมุจเฉท เหมือนพระอริยบุคคล
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ