ถาม เคยได้ฟัง อาจารย์สุจินต์ ฯ เรื่องภารกิจของพระพุทธเจ้า แต่ไม่ได้บันทึกไว้ ผมมีความซาบซึ้งมาก ขอรายละเอียดการปฏิบัติทั้ง ๓ ยาม ตลอด ๔๕ พรรษา เพื่อเก็บไว้เป็นอนุสติถึงพระกรุณาธิคุณของท่าน ในที่ที่พระสัมพุทธเจ้าทั้งหลายประทับอยู่ในวิหาร พระสัมพุทธเจ้าเหล่านั้นย่อมมีกิจประจำวัน ๕ อย่าง อะไรบ้าง
ตอบ กิจในปุเรภัต ๑ กิจในปัจฉาภัต ๑ กิจในปุริมยาม ๑ กิจในมัชฌิมยาม ๑ กิจในปัจฉิมยาม ๑ ใน ๕ อย่างนั้น กิจในปุเรภัต ดังนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงลุกแต่เช้าทีเดียว ทรงทำบริกรรมพระวรกาย มีบ้วนพระโอษฐ์ เป็นต้น เพื่ออนุเคราะห์ภิกษุผู้อุปัฏฐาก และเพื่อสำราญพระวรกาย แล้วทรงให้เวลาล่วง ณ เสนาสนะที่สงัด จนถึงเวลาเสด็จภิกขาจาร
ถึงเวลาเสด็จภิกขาจาร ก็ทรงนุ่งสบงคาดประคดเอว แล้วทรงห่มจีวร ทรงถือบาตร บางคราวทรงเสด็จพระองค์เดียว บางคราวแวดล้อมไปด้วยภิกษุสงฆ์ เสด็จเข้าไปยังคามหรือนิคมเพื่อบิณฑบาต บางครั้งก็เสด็จเข้าไปตามปกติ บางครั้งก็มีปาฏิหาริย์หลายอย่างเป็นไปอยู่คือ เมื่อพระโลกนาถเสด็จเที่ยวบิณฑบาต ลมอ่อนพัดชำระแผ่นดินให้สะอาดไปข้างหน้า เมฆฝนหลั่งน้ำลงเป็นหยดๆ ให้ละอองในหนทางเรียบราบ กั้นเป็นเพดานอยู่เบื้องบน ลมอีกอย่างพัดเอาดอกไม้มาเบื้องบน เกลี่ยลงในหนทางภูมิประเทศที่สูงขึ้นก็ต่ำลง ภูมิประเทศที่ต่ำลงก็สูงขึ้น ในสมัยทอดพระบาทลงพื้นแผ่นดินย่อมเรียบเสมอ ดอกประทุมที่เป็นสุขสัมผัสย่อมรับพระบาท
พอพระองค์วางพระบาทขวาภายในเสาเขื่อน รัศมีมีพรรณ ๖ สร้านออกจากพระสรีระ กระทำเรือนยอดปราสาท ให้มีสี่เหลี่อมพรายด้วยน้ำทอง และให้เป็นเหมือนแวดล้อมด้วยแผ่นผ้าอันวิจิตร สร้านไปข้างโน้นข้างนี้ ช้างม้าและวิหคเป็นต้น ยืนอยู่ในที่ของตนๆ ส่งเสียงด้วยอาการอันไพเราะ ดนตรี มีกลอง และพิณเป็นต้น และอาภรณ์ที่สวมกายพวกมนุษย์อยู่ก็เป็นอย่างนั้น ด้วยสัญญาณนั้น พวกมนุษย์ย่อมรู้กันว่า วันนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้ามาบิณฑบาตในที่นี้
พวกเขานุ่งห่มเรียบร้อยถือของหอมและดอกไม้ เป็นต้น ออกจากเรือนเดินไประหว่างถนน บูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยดอกไม้ เป็นต้น โดยเคารพ ถวายบังคมแล้วทูลขอว่า พระเจ้าข้า ขอพระองค์โปรดประทานภิกษุแก่พวกข้าพระองค์ ๑๐ รูป แก่พวกข้าพระองค์ ๒๐ รูป แก่พวกข้าพระองค์ ๑๐๐ รูป พระเจ้าข้า รับบาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ให้ปูลาดอาสนะ ต้อนรับด้วยบิณฑบาตโดยเคารพ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ