ความอยู่ไม่ผาสุก.
โดย pirmsombat  20 ก.ค. 2554
หัวข้อหมายเลข 18782

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 568

.............................................

พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลง

แล้ว จึงตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

โลภะยังสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ให้เกิด โลภะยังจิตให้

กำเริบ โลภะเป็นภัยเกิดในภายใน พาลชนย่อมไม่รู้สึก

ภัยนั้น คนผู้โลภย่อมไม่รู้อรรถ คนผู้โลภย่อมไม่เห็น

ธรรม ความโลภครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อ

ย่อมมีในขณะนั้น.

โทสะยังสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ให้เกิด โทสะยังจิตให้

กำเริบ โทสะเป็นภัยเกิดในภายใน พาลชนย่อมไม่รู้สึก

ภัยนั้น คนผู้โกรธย่อมไม่รู้อรรถ คนผู้โกรธย่อมไม่เห็น

ธรรม ความโกรธครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อ

ย่อมมีในขณะนั้น.

โมหะยังสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ให้เถิด โมหะยังจิตให้

กำเริบ โมหะเป็นภัยเกิดในภายใน พาลชนย่อมไม่รู้สึก

ภัยนั้น คนผู้หลงย่อมไม่รู้อรรถ คนผู้หลงย่อมไม่เห็น

ธรรม ความหลงครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อ

ย่อมมีในขณะนั้น.

เพราะอรรถว่า เป็นที่อยู่แห่งอกุศลทั้งหลายแม้อย่างนี้ จึงชื่อว่า อันตราย.

สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนมหาบพิตร ธรรม

๓ ประการแล เมื่อเกิดขึ้นในภายในแห่งบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อมิใช่

ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่ผาสุก ธรรม ๓ ประการ

เป็นไฉน? คือโลภะเมื่อเกิดขึ้นในภายในแห่งบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อมิใช่

ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่ผาสุก โทสะเมื่อเกิดขึ้นใน

ภายในแห่งบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อ

ความอยู่ไม่ผาสุก โมหะเมื่อเกิดขึ้นในภายในแห่งบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อมิใช่

ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่ผาสุก ดูก่อนมหาบพิตร

ธรรม ๓ ประการนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในภายในแห่งบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อ

มิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่ผาสุก.



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 20 ก.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอครับ


ความคิดเห็น 2    โดย pirmsombat  วันที่ 20 ก.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณเผดิม คุณคำปั่น คุณผู้ร่วมเดินทาง

และ

ทุกท่านครับ


ความคิดเห็น 3    โดย สมศรี  วันที่ 21 ก.ค. 2554

ขอบพระคุณและอนุโมทนา่ค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย nong  วันที่ 21 ก.ค. 2554

เตือนใจได้ดีมากๆ ค่ะ ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 5    โดย khampan.a  วันที่ 21 ก.ค. 2554

โลภะ โทสะ โมหะ และอกุศลประการอื่นๆ มีแต่โทษอย่างเดียว ไม่นำประโยชน์ใดๆ มาให้เลย ครับ.

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณหมอ ด้วยครับ


ความคิดเห็น 6    โดย ผู้ร่วมเดินทาง  วันที่ 22 ก.ค. 2554

เป็นพระสูตรที่ทรงเมตตาเตือนสติได้เป็นอย่างดีว่า

ตราบใดที่ยังไม่รู้ภัยในอกุศล ตราบนั้นก็ยังไม่เห็นอกุศล

คงเป็นพาลชนผู้ถูกกิเลสครอบงำ มืดตื้อ

เป็นที่อยู่ของอกุศลทั้งหลาย ซึ่งชื่อว่า เป็นอันตราย

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอครับ


ความคิดเห็น 7    โดย intira2501  วันที่ 23 ก.ค. 2554
เตือนสติได้ดีมากค่ะ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ