อยากสอบถามว่า เหตุใดนางวิสาขาจึงเป็นบุคคลร่ำรวยมากครับ
โดย สืบต่อพุทธ  1 ส.ค. 2557
หัวข้อหมายเลข 25194

เป็นการทำบุญถวายทานด้วยสิ่งใดและด้วยปัญญาใช่ไหมครับ และความร่ำรวยของผู้มีบุคคลทั่วไป วัดจากอะไรครับ ความพอใจหรือความพอดี ใช่ต้องมีบ้านใหญ่ต่อรถแพงไหมครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ

อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 1 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

นางวิสาขามหาอุบาสิกา เป็นผู้เลิศในการให้ทาน ได้ทำบุญไว้มากมาย เพราะผลของบุญที่ให้ทานมาก และฉลาดด้วยปัญญาในการให้ โดยถวายพระภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าทรงเป็นประมุข ทั้งในพระพุทธเจ้าในอดีตหลายพระองค์ และการให้ทานเป็นปกติกับคนทั่วไป ทำให้ท่านเกิดมาร่ำรวยมีทรัพย์มาก แม้ในสมัยพระพุทธเจ้าพระสมณโคดม (ปัจจุบัน) นางวิสาขา บรรลุเป็นพระโสดาบันตั้งแต่ เจ็ดขวบ และพระพุทธเจ้าก็ทรงตั้งไว้ในตำแหน่งผู้เลิศในการให้ทาน

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ

ประวัตินางวิสาขามิคารมารดา

ส่วนความพอดี อยู่ที่ตรงไหนนั้น ก็อยู่ที่โลภะของแต่ละคนที่มีแตกต่างกันไป หากมีความเข้าใจพระธรรมบ้าง ก็ยังเป็นผู้ยินดีในของของตนที่เป็นความสันโดษบางขณะ แต่เมื่อยังเป็นปุถุชน ก็ยังสะสมกิเลสมามาก ทั้งโลภะ ความต้องการ ติดข้อง ซึ่งไม่เคยพอเลย

พระพุทธเจ้าตรัสว่าภูเขาทองคำมีสีสุขแม้มีสองลูกก็ไม่เพียงพอกับคนคนเดียว แสดงถึงกำลังของโลภะกิเลสที่สะสมมามากอย่างยิ่งไม่พอเลย เพราะฉะนั้น หนทางการละความไม่พอ คือ เข้าใจความจริงของสภาพธรรมในขณะนี้ว่าเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา อันจะมาจากการฟัง ศึกษาพระธรรม ครับ

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย Chalee  วันที่ 1 ส.ค. 2557

สาธุๆ


ความคิดเห็น 3    โดย เพียงดิน  วันที่ 1 ส.ค. 2557

สมัยก่อนผมก็คิดว่า การมีเงินเยอะๆ มีบ้านใหญ่โต รถสวยๆ มีทรัพย์สินที่ดินเยอะๆ แล้วถือว่ารวย

แต่พอปัจจุบันได้ศึกษาธรรมะ แล้วจึงได้รู้ว่า ยิ่งมีโลภะมากเท่าไหร่ เรายิ่งจนมากเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินภายนอกเลย

จริงๆ ร่างกายคนเราต้องการเพียงอาหารวันละมื้อ ที่พักผ่อนหลับนอนพอสมควรกับขนาดร่างกายเท่านั้น และเครื่องนุ่งห่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น

ส่วนนอกจากนี้คือส่วนเกิน ที่เกิดจากโลภะ ที่เราต้องรีบวิ่งหาเงินทองเพื่อมาปรนเปรอมันความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจมาก ขออนุโมทนาด้วยกับคำถามนี้ครับ


ความคิดเห็น 4    โดย kullawat  วันที่ 1 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย รู้จบลงที่รู้  วันที่ 1 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย khampan.a  วันที่ 1 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เหตุย่อมสมควรแก่ผล ผลที่ได้รับซึ่งเกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน ล้วนมาจากเหตุ คือ กรรมที่ได้กระทำแล้ว โดยไม่มีใครทำให้ กรรมเป็นสภาพธรรมที่จัดสรร ทำให้คนแตกต่างกันทั้ง ทรัพย์สมบัติ ตระกูล ผิวพรรณ เป็นต้น แต่ละคนก็เป็นแต่ละหนึ่งจริงๆ ไม่เหมือนกัน ไม่ปะปนกัน ด้วยกรรมของใครทำ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ผลก็เกิดขึ้นเป็นไปแก่ผู้นั้น ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมเลย ไม่มีสัตว์บุคคล ตัวตน

ตราบใด ที่ยังไม่ได้ดับความพอใจใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ได้ อย่างหมดสิ้น ความติดข้องก็ยังมีเหตุปัจจัยให้เกิดขึ้น แต่สำหรับผู้ที่เป็นพระอริยบุคคลขั้นพระโสดาบันแล้ว จะไม่มีโลภะที่มีกำลังถึงขึ้นล่วงเป็นทุจริตกรรมใดๆ เลย แม้แต่น้อย ท่านที่มีชีวิตที่สมบูรณ์ มีทรัพย์สินเงินทอง เงินทองของท่าน นอกจากจะเป็นประโยชน์สำหรับตัวท่านในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ชีวิตมีความสุขแล้ว ยังเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่านางวิสาขา เป็นผู้ยินดียิ่งการให้ทาน มีความเสียสละ ให้ทานอยู่เสมอครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 7    โดย wannee.s  วันที่ 1 ส.ค. 2557

คนที่รวยที่สุด แต่ไม่มีปัญญา แม้จะนอนเตียงทองคำ ก็ยังมีความทุกข์ ส่วนคนที่มีปัญญาแม้จะจนก็มีความสุข เพราะฉะนั้นปัญญาสำคัญกว่าทรัพย์สินใดๆ ในโลก ค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย ปวีร์  วันที่ 1 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย ใหญ่ราชบุรี  วันที่ 1 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ด้วยคามเคารพ จาก ใหญ่ราชบุรี - ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี


ความคิดเห็น 10    โดย ประสาน  วันที่ 2 ส.ค. 2557

ปัญญาสำคัญกว่าทรัพย์สินใดๆ ในโลก

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 11    โดย peem  วันที่ 2 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย Nasansurat  วันที่ 2 ส.ค. 2557

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 13    โดย chatchai.k  วันที่ 7 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ