ต่อจาก ... บันทึกการก่อสร้างอาคารสำนักงานมูลนิธิฯ ... ๐๓
๑ กันยายน ๒๕๔๒
คุณบุษบงรำไพ กับ พลตรี ดร. วีระ มาดูการก่อสร้างด้วยความโสมนัสยินดี ทัพพสัมภาระมากมาย : ไม้, ปูน, เหล็ก, หิน, ดิน, ทราย๗ กันยายน ๒๕๔๒
งานก็ยังดำเนินต่อไป
การสนทนาปราศรัยก็เป็นไปตามธรรมดา
๘ กันยายน ๒๕๔๒ ทางเข้าดูแคบลง เมื่อรถผสมปูนออกไป
แล้วก็เข้ามา
ดำเนินงานต่ออีก
แล้วก็ดำเนินงานต่อไป จากเช้าจนถึงเย็น
จะว่างเว้นจากความไม่รู้จักธรรมะสักขณะ...หาได้ยากยิ่ง
ขณะที่กุศลเกิด...เป็นขณะที่เป็นประโยชน์แต่ขณะที่ปัญญาเกิด...ประเสริฐยิงกว่ากุศลใดๆ
๑๐ กันยายน ๒๕๔๒
งานก่อสร้างก็ค่อยๆ คืบหน้าไปทีละน้อยท่านอาจารย์กับอาจารยดวงเดือน มาดูการก่อสร้างในวันนั้นทางเดินค่อนข้างลำบาก ท่านอาจารย์สะดุดเล็กน้อยแต่ท่านก็ยังเดินต่อ ไม่ท้อถอยเมื่อดูเสร็จแล้ว ท่านทั้งสองจึงเดินออกมาแวะทักทายปราศรัยกับผู้คนอย่างเป็นปรกติผังโครงการรายละเอียดของโครงการ (บน) รายละเอียดของโครงการ (ล่าง) ใครจะรู้ว่า...อีกหน่อยทีนี่จะน่ารื่นรม์ด้วยการเจริญกุศลสักเพียงไหนเมื่อวันนั้น นกสามตัวบินมาเดินเล่นตรงทางเข้า ส่งเสียงให้ฟังอย่างสำราญใจ
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
สาธุ
เหมือนโอเอซีสกลางทะเลทรายเพราะปัจุบันเต็มไปด้วยความร่มรื่นแช่มชื่นไปด้วยเสียงพระธรรมและกัลยาณมิตร
ขออนุโมทนาค่ะ
ดูรูปการก่อสร้างอาคารสำนักงานมูลนิธิฯ แล้วนึกถึงว่า การเจริญปัญญาย่อมค่อยๆ เติบโตงอกงามขึ้นเช่นกัน เหมือนการก่อสร้าง อย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป หมั่นคอยระวัง ตรวจสอบการก่อสร้างอยู่เสมอเพื่อความแข็งแรงมั่นคงของอาคาร เช่นกันกับการหมั่นตรวจสอบตรวจทานความเข้าใจในพระธรรม เพื่อความเข้าใจถูกนั้นจะแข็งแรงมั่นคง ไม่หวั่นไหวในกาลข้างหน้า
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะ
ของท่านทั้งหลายที่เกี่ยวข้องในการอันเป็นกุศลอย่างยิ่งนี้ทุกท่านค่ะ
อ่านประโยคสุดท้าย คิดไปไกลเลยค่ะตอนแรก คิดไปว่าเป็น ปริศนาธรรม พอสังเกตุเห็นจุด ๓ จุดสีน้ำตาล จุดที่ ๒ ๓ พอดูออกว่า เป็นบัญญัติที่ เรียกว่านก แต่จุด ๑ เหมือนก้อนดินค่ะ แค่ตา กระทบสี ก็จินตนาการ ไปได้ เป็นเรื่องยาวทีเดียว อันที่จริงทุกวันเสาร์ อาทิตย์ ก็ยังมีเสียงที่ไพเราะและมีสาระอยู่นะคะ
เกือบสิบปีแล้วนะคะ
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขออนุโมทนาในกุศลของท่านอาจารย์ดวงเดือน
ขออนุโมทนาพี่บุษบงรำไพ กับ พลตรี ดร. วีระ
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
กราบ อนุโมทนา อีกครั้งครับ
"ขณะที่กุศลเกิด เป็นขณะที่เป็นประโยชน์ แต่ขณะที่ปัญญาเกิด ประเสริฐยิงกว่ากุศลใดๆ "