ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจากการถอดเทปวิทยุโดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล
ท่านอาจารย์ กรุณาอธิบายไว้ว่าตราบใดที่ยังไม่ประจักษ์ในลักษณะของสภาพเห็นหรือธาตุเห็น นะคะ ว่าเป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นธาตุชนิดหนึ่งซึ่งเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตนจะไม่มีการประจักษ์ การเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรมใดๆ เลย และเมื่อไม่มีการประจักษ์การเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรม ย่อมไม่เห็นความเป็นอนัตตาของธรรมะทั้งหลาย เพราะฉะนั้น ก็ดับกิเลสไม่ได้เพราะว่า ปัญญาไม่ได้เกิดขึ้นรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ก็ย่อมเป็นเราที่เห็นและเป็นเราที่ต้องการเห็นไปเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้น จุดประสงค์ของการศึกษาธรรมะ ต้องเข้าใจด้วย ให้เข้าใจชัดในลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริง ที่กำลังปรากฏในขณะนี้จนกว่าจะเป็นความรู้ชัดจนกว่าจะเป็นความประจักษ์แจ้งคือ รู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรม ที่ไม่ใช่ตัวตน ที่เป็นอนัตตา แต่ต้องเป็นผู้ที่ตรง
ถ้ายังเป็นตัวตนอยู่ ก็ต้องอบรม อบรมเจริญปัญญาจนกว่าปัญญาจะเจริญขึ้น แต่ต้องเข้าใจถูกต้อง ตามความเป็นจริงว่า อนัตตา หมายถึง สภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตน เป็นสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้เมื่อเกิดขึ้น จึงปรากฏเมื่อปรากฏแล้ว ก็ดับไปทันที
นิพพาน ก็เป็นอนัตตาแต่ยังไม่ปรากฏ เพราะว่า ยังไม่รู้ชัดในสภาพธรรมที่ปรากฏเมื่อยังไม่รู้ชัดในสภาพธรรมที่ปรากฏ"ปัญญา"ก็ไม่เจริญขึ้น จนกระทั่งสามารถประจักษ์ ในลักษณะของ "นิพพาน" ได้
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศล แด่คุณพ่อ คุณแม่ญาติมิตร ที่ล่วงลับและสรรพชีวิต ที่ล่วงรู้ได้อนุโมนาด้วยกันค่ะ
อันว่ารสใดๆ ไม่แม้น รสธรรม ก็รสทั้งหลาย ในโลกนี้ไม่อาจนำพาให้พ้นจากทุกข์ได้ มีแต่ "รสพระธรรม" เพียงเท่านั้น โดยเฉพาะ โพธิปักขิยธรรม"ย่อมนำพา ให้พ้นทุกข์ได้จริง สมดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ รสแห่งพระธรรมชนะรสทั้งปวง
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ไม่รู้ความจริงที่มีปรากฏให้รู้ได้ในขณะนี้จะไปรู้นิพพานซึ่งมี แต่ยังไม่ปรากฏได้อย่างไร
ขออนุโมทนาครับ...
ขออนุโมทนา
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ขออนุโมทนาครับ