ขออนุญาตเรียนถามว่า
เหตุใด "รูป" จึงไม่เป็นอารัมณาธิปติปัจจัย แก่ กุศลจิต เลยครับ
เพราะใน อธิปติปัจจัย นั้น มี วิมังสะ ซึ่งเป็นปัญญารู้ความจริง
เมื่อมีรูปปรมัตถ์เป็นอารมณ์ประกอบปัญญาจึงน่าจะเป็นเหตุให้กุศลจิตเกิดได้
รูปธรรมทั้งหมดเป็นอารัมณปัจจัยแก่กุศลจิต แต่ไม่เป็นอารัมณาธิปติปัจจัยแก่กุศลจิต เพราะรูปเป็นอารัมณาธิปติปัจจัยได้เฉพาะอกุศลเท่านั้น ส่วนนามธรรม เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยทั้งกุศลจิตและอกุศลจิตได้ เพราะเหตุว่าขณะ
ที่จิตมีรูปเป็นปัจจัยอย่างหนักแน่น มีอารมณ์เป็นใหญ่ยิ่งเป็นปัจจัย จิตจะเป็น
กุศลไม่ได้ ต้องเป็นอกุศลเท่านั้นครับ เพราะสภาวของกุศลธรรมต่างจากอกุศล-
ธรรมที่ติดข้องต้องการอย่างยิ่งในอิฏฐารมณ์
รูปไม่เป็นอารัมณาธิปติปัจจัยแต่กุศลจิต เพราะขณะที่กุศลจิตเกิดจะไม่ติดข้อง
ไม่เหมือนโลภะที่ติดข้องอย่างเหนียวแน่น ไม่ทอดทิ้งในอารมณ์นั้นค่ะ
ที่อาจารย์ประเชิญกล่าวว่า " ขณะที่จิตมีรูปเป็นปัจจัยอย่างหนักแน่น มีอารมณ์เป็น
ใหญ่ ยิ่งเป็นปัจจัย จิตจะเป็นกุศลไม่ได้ ต้องเป็นอกุศลเท่านั้น " จิตดังกล่าวที่อาจารย์
ว่านี้ จะเป็น ชวนะ ของปัญจทวารวิถี ใช่ไหมครับ เพราะยังมีรูปเป็นอารมณ์อยู่ค่อนข้าง
หนักแน่น หากเป็นมโนทวารวิถี รูปดับและจะกลายเป็นบัญญัติไปแล้ว ก็จะกลายเป็น
นามธรรมที่เป็นอารัมณาธิปติปัจจัย ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกต้องหรือไม่ครับ
วิถีจิตต้องเป็นขณะชวนวิถี ทั้งปัญจทวารและมโนทวาร เพราะมโนทวารรับอารมณ์
ต่อจากปัญจทวาร ส่วนนามธรรมเป็นอารัมณาธิปติปัจจัย แก่วิถีจิตทางมโนทวารเท่านั้น
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ